ข้อความต้นฉบับในหน้า
18
นกปาก อมกับหอยกาบ
หนีบเอาจะงอยปากของนกปากซ่อมติดอยู่ในเปลือกหอยด้วย นก
ปากซ่อมพยายามดึงจะงอยปากของตนออกสุดแรงเกิดแต่ก็ไม่สำเร็จ
เพราะหอบกาบหนีบไว้อย่างสนิทแน่น
นกปากซ่อมเริ่มรู้สึกสำนึกเสียใจบ้างแล้ว แต่ก็แสดงท่าทีทำ
เป็นไม่แยแส พูดกับหอยกาบว่า
“แกช่างเป็นสัตว์ที่โง่จริงๆ แกมาหนีบจะงอยปากของฉันไม่
ยอมปล่อยอย่างนี้ ตัวแกเองก็เคลื่อนที่ไม่ได้ ถ้าวันนี้ฝนไม่ตก
พรุ่งนี้ฝนก็ไม่ตก แกก็จะต้องแห้งตายแน่ๆ ฉันคิดว่าทางที่ดีแกยัง
คงรีบคลายเปลือกหอยของแก แล้วกลับลงน้ำไปจะดีกว่า”
หอบกาบยิ้มอย่างเย็นชา ตอบกลับมาว่า
“แกไม่ต้องมาทำพูดดี ฉันไม่หลงกลของแกแน่นอน ปากของ
แกถูกฉันหนีบอยู่อย่างนี้ วันนี้ก็กินอะไรไม่ได้ พรุ่งนี้ก็กินอะไรไม่ได้
แกก็จะต้องอดตายในไม่ช้า"
สัตว์สองตัวนี้ เถียงกันไปมาอยู่ครึ่งค่อนวัน ไม่มีใครยอมใคร
พอดีมีชายชาวประมงคนหนึ่งกำลังจะกลับบ้านเดินผ่านมา เห็นสัตว์ 2
ตัวนี้หนีบติดอยู่ด้วยกัน เขาพูดขึ้นอย่างดีใจว่า
“โชคของฉันวันนี้ไม่เลวทีเดียว เมื่อแกทั้งคู่ตกลงกันไม่ได้
ฉันก็ต้องคว้าเอาโอกาสอันนี้ไว้แล้ว”
และแล้วชายชาวประมงก็จับเอาสัตว์ทั้ง 2 ตัวนั้นขึ้นมาใส่ลง
ในชะลอมไม้ไผ่ด้วยกัน วางแผนการไว้ว่าพรุ่งนี้จะเอาไปขายในตลาด
17
นกปาก อมกับหอยกาบ @
ท่านสาธุชนทั้งหลาย....
เราอย่าเป็นคนถือทิฏฐิมานะ ดื้อดึงจะเอาชนะให้ได้ คน
อย่างนั้นเป็นคนไม่น่ารัก ไม่มีใครอยากคบด้วย และจะทำเรื่อง
เล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ แล้วตัวต้องมานั่งเสียใจภายหลัง ขอให้
เราเป็นคนที่รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว รู้จักประนีประนอม มีหลักการ
ชัดเจน เมื่อใดที่รู้ว่าตัวเองทำพลาดไปแล้ว ก็มีความกล้าหาญพอที่
จะยอมรับผิดและปรับปรุงแก้ไข ไม่ดันทุรังเถียงข้างๆ คูๆ ไม่กลัว
หน้าแตก คนที่รู้จักแพ้รู้จักถอยอย่างนี้ แทนที่จะเป็นการบั่นทอน
ศักดิ์ศรีของตัว ตรงกันข้ามกลับจะเป็นที่รักที่เคารพเกรงใจของคนอื่นๆ
น ติ ต สาธุ ฐิติ ย ต อายุยติ
ความจนะใดทีจน แล้วกลับแพ้ได้
ความจนะนั้นไม่มี
(ขุ. ชา. เอก. 27/22)
da