ข้อความต้นฉบับในหน้า
66
• ลัน ทท ายเป็นสัน อ
กษัตริย์แคว้นอู่พอเห็นโจรนั้น ก็แกล้งทำเป็นประหลาดใจมาก
ตรัสถามด้วยเสียงอันดังว่า “เจ้านักโทษคนนี้ไปทําผิดอะไรมา
ราชองครักษ์ทูลตอบว่า “เป็นโจรลักปล้น เพิ่งจับได้เมื่อครู่นี้
เองพระเจ้าข้า"
กษัตริย์ตรัสถามอีกว่า “มันเป็นคนที่ไหน”
ราชองครักษ์ “เป็นคนแคว้น พระเจ้าข้า”
“คนแคว้นฉี” กษัตริย์แคว้นอู่ทำท่าทางเหมือนไม่อยากเชื่อ
ทรงนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามเอี้ยนอิงว่า “ท่านเอี้ยนอิง ประเทศของ
ท่านคงจะมีพวกโจรลักปล้นอย่างนี้มากสินะ”
เอี้ยนอิงลุกขึ้นยืน โค้งคำนับกษัตริย์แคว้นฉู่ แล้วทูลตอบอย่าง
นอบน้อมว่า
“พระองค์คงจะเคยได้ยินมา มีต้นส้มกิ๊กต้นหนึ่งเจริญเติบโต
อยู่ทางใต้แม่น้ำไหว ออกผลส้มกิ๊กมาทุกๆ ปี รสชาติหวานอร่อย
แต่ถ้าย้ายไปปลูกทางเหนือแม่น้ำไหวแล้ว กลับจะออกผลเป็นส้มจื่อ
ซึ่งทั้งขม ทั้งฝาด ลักษณะภายนอกของส้มทั้งสองชนิดนี้ แม้ดูคล้าย
กัน แต่รสชาติกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง นี่เป็นเพราะ ดิน น้ำ สิ่ง
แวดล้อมของต้นไม้โดยแท้
กษัตริย์แคว้นฉู่ไม่ค่อยเข้าใจวัตถุประสงค์ในการพูดยก
ตัวอย่างของเอี้ยนอิงนัก แต่ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าสนใจ เอี้ยนอิงพูด
ต่อไปว่า
ส้ม ททลายเป็นสมชื่อ
67
“แคว้นฉีของพวกข้าพระองค์ไม่มีโจรลักปล้น การที่คนคนนี้
กลายเป็นโจรลักปล้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้มาอยู่แคว้น
อู่แล้ว คงเป็นเพราะว่าเขาได้รับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม สังคมของ
ประเทศพระองค์แน่ๆ เลยพระเจ้าข้า”
“นําเจ้าโจรนี้ออกไปทันที!” กษัตริย์แคว้นอู่ตรัสสั่งราชองค
รักษ์ พระองค์ตั้งใจจะแกล้งทำให้เอี้ยนอิงได้อาย แต่ลงท้ายกลับ
ทําให้ตัวเองกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ท่านสาธุชนทั้งหลาย....
ไหวพริบปฏิภาณ ปัญญา สามารถแก้ไขปัญหาได้
- ปัญญา เปรียบเหมือนอาวุธ ช่วยปกป้องคุ้มครองได้ นำ
ชัยชนะมาได้
ปัญญา เป็นทรัพย์สินอันมีค่า
ผู้มีปัญญา ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็องอาจ มีสง่าราศี หมู่คณะก็สง่า
งามเป็นที่เกรงขามด้วย และขอให้พวกเราอย่าได้คิด
กลั่นแกล้งผู้ใด ไม่ว่าจะเป็นผู้น้อยหรือผู้ใหญ่ การกลั่น
แกล้งจะไม่ก่อให้เกิดผลดีใดๆ เลย ได้แต่เพียงความรู้สึก
สะใจเท่านั้น แต่จะให้โทษแก่เราทั้งในภพนี้และภพหน้า
da