ข้อความต้นฉบับในหน้า
๔๒ ลมหายใจเข้าออกของพระพุทธศาสนา
พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ M.D., Ph.D. CO
สอนศาสนาอิสลามจึงติดตามขบวนเรือสินค้าไปเผยแผ่ศาสนาในหมู่
เกาะต่างๆ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ตอนใต้ของฟิลิปปินส์
เช่นเดียวกับยุคล่าอาณานิคมของชาวตะวันตก บาทหลวง
ชาวคริสต์ก็ติดตามขบวนเรือสินค้าและเรือรบเข้าไปเผยแผ่ศาสนา
ในดินแดนต่างๆ ที่ตกเป็นอาณานิคม เป้าหมายในการเผยแผ่ศาสนา
ก็คือคนในท้องถิ่น โดยภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ก็ไปเรียนรู้
เอาที่นั่นเลย ไม่ได้เป็นอุปสรรคมากมายอะไร
ต่อมาเมื่อวิทยาการเจริญก้าวหน้ามากขึ้น การเดินทาง
สะดวกขึ้น ก็มีการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานทั้งระยะสั้นระยะยาวของ
ประชากรในโลกมากขึ้น ทำให้เกิดรูปแบบการเผยแผ่ศาสนาในต่าง
ประเทศแบบใหม่ โดยที่ศาสนาเข้าไปพร้อมๆ กับการอพยพของผู้คน
เช่น ชาวจีนอพยพไปในที่ต่างๆ ก็นำพุทธศาสนามหายานไปด้วย
ชาวไทยอพยพเข้าอเมริกา ก็นำพระพุทธศาสนาไปด้วย มีการสร้างวัด
นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ไปอยู่จำพรรษา สั่งสอนประชาชน เป็นการพยายาม
รักษาวัฒนธรรมและศาสนาเดิมในสิ่งแวดล้อมใหม่
อย่างไรก็ตามการเผยแผ่ศาสนาแบบนี้ แม้ว่าช่วงแรกจะดูดี
เพียงไรก็ตาม แต่ก็ยังจำกัดวงอยู่เพียงในหมู่ผู้อพยพ ซึ่งถ้าหากไม่
สามารถเจาะเข้าไปสู่คนท้องถิ่นนั้นๆ ได้ ก็ถือว่ายังไม่มั่นคง เพราะ
ผู้อพยพรุ่นแรกจะมีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ และตายลงตามลำดับ ส่วน
ลูกหลานผู้อพยพซึ่งเกิดในประเทศใหม่ มีวัฒนธรรมภาษาต่างกัน ก็
ค่อยๆ กลมกลืนกลายเป็นคนในประเทศนั้น วัฒนธรรมนั้น ถ้าผู้
เผยแผ่ศาสนาไม่มีการปรับตัว ทั้งด้านภาษาและการอบรมสั่งสอน
ยึดติดรูปแบบเดิมๆ แล้ว ศาสนาที่ผู้อพยพรุ่นแรกพยายามก่อร่าง
สร้างขึ้นในดินแดนนั้นๆ ก็จะค่อยๆ เสื่อมสลายไปในที่สุด ประเด็น
สำคัญที่สุดที่จะเป็นตัวกำหนดความมั่นคงของการเผยแผ่ศาสนาใน
ต่างแดนอยู่ที่ว่า จะสามารถปลูกจิตสำนึกพร้อมกับเจาะเข้าไปในหมู่
คนท้องถิ่นได้หรือไม่
MEDITATION
FOR BEGINNERS
7 NOV 97