ข้อความต้นฉบับในหน้า
13ᴗ ปฏิทินอุโบสถ ได้แก่ อุโบสถที่รักษากันในช่วงเวลา ๑ วัน กับ ๑ คึ่น โดยมากรักษากันในวันขึ้นหรือแม้ ๘ คึ่น ๑๙ คึ่น หรือ แรม ๑๙ คึ่น ในเดือนคึ่น พูดง่าย ก็ คือ รักษากันในวันพระนั้นเอง ปฏิทินอุโบสถ จัดเป็น อุโบสถขั้นต้น
2. ปฏิทินครุอุโบสถ ได้แก่ อุโบสถที่รักษากันในช่วงเวลาจนถึง ๓ วัน ตัวอย่างเช วัน ๗ คึ่น วัน ๘ คึ่นรับ วัน ๙ คึ่นรับ วัน ๑๐ คึ่นเป็นวันสูงอุโบสถ รวมเป็น ๓ วัน
3. ปฏิทินฮีรอยุโบสถ ได้แก่ อุโบสถที่มีจำนวนเวลา ตั้งแต่
๑) อย่างต่ำ เริ่มตั้งแต่ แรม ๑ คึ่น เดือน ๑๑ จนถึง แรม ๑๔ คึ่น เดือน ๑๑ รวม ๑๔ วัน
๒) อย่างสูง เริ่มตั้งแต่ แรม ๑ คึ่น เดือน ๔ จนถึง ขึ้น ๑๕ คึ่น ค่าเดือน ๑๒ รวม ๔ เดือน ปฏิทินฮีรอยุโบสถ จัดเป็นอุโบสถขั้นสูง
อนิสงส์ของการรักษาศีล ๘ และอุโบสถศีล
การรักษาศีล ๘ หรืออุโบสถศีล นอกจากจะมีอนิสงส์ในทางส่วนตัว เช่น เดียวกับศีล ๕ แต่ในระดับที่สูงกว่าแล้ว ยังอาจมีอนิสงส์ในด้านสังคมและเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก คือ
๑. เป็นการคุ้มครองโดยธรรมชาติ
๒. เป็นการลดช่องว่างระหว่างชนชั้น ไม่มีการแบ่งชน ระดับประรามร่างกายให้ปล่อยเงินทอง เกินความจำเป็น อันเป็นการโอ้อวดความฟุ่มเฟือยเข้าใส่กัน
๓. เป็นการทำให้จิตใจสงบในเบื้องต้น แล้วเกิดความเมตตามากขึ้น
๔. เมื่อใจสงบ ยอมสามารถเข้าสิงธรรมะขั้นสูงต่อไปโดยง่าย
ศีล ทำใหบ้านเมืองพ้นจาก ความอดอยากยากแค้น
ทั้งกรรมวิบากของผู้ละเมิดศีล และอนิสงส์ของการรักษาศีลที่กล่าวมาแล้ว เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล หมายความว่า ใครรักษาศีลได้ครบบริบูรณ์ ผู้ที่ยอมได้อนิสงส์ดังกล่าว ส่วนผู้ที่จะละศีล ก็ย่อมได้รับกรรมวิบากดังกล่าวเช่นกัน เกิดผลเฉพาะตัวผู้ปฏิบัติ แต่ถ้าบุคคลผู้นั้นคนใด เมืองใด ประเทศใด พร้อมใจกันระวังให้การรักษาศีลขาดตกบกพร่อง อนาสงสัยย่อมเกิดขึ้นครอบคลุมทั้งแผ่นดิน เมืองนั้น ประเทศนั้น จะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนอยู่ดีมีสุขกันทั่วทุกคน