ข้อความต้นฉบับในหน้า
จากชาตินี้แสดงให้เห็นว่า นักปราชญ์ทั้งหลายต่างมีความละอายต่อบาป เกรงกลัวต่อการทำบาป คิดจะสงสัยว่าการทำผิดของตนแม่เพียงเล็กน้อยก็จะเป็นนิจ โดยเหตุที่ต่างคนต่างเกรงกลัวบาปเช่นนี้ ย่อมแสดงว่าคุณธรรมต้องรักษาศีลสร้างแต่งบุญคุณ ซึ่งอาให้เกิดความสงบเมื่อนเย็น และความอุดมสมบูรณ์ทั่วพื้นแผ่นดิน
ศีลในสังคมปัจจุบัน
ลองหันมาพิจารณาสภาพสังคมทุกวันนี้ มีใครลำบากยันไหมว่า คนส่วนใหญ่ในสังคมปัจจุบัน ละอายบาป เกรงกลัวบาป ข่าวร้าย ปล้น มาตรกรรม อั่งโกง ตัดใจกลายบ่า มีขึ้น กระทำชั่ว เรียกได้ ตลอดจนการแตกแยกในระหว่างกลุ่มบุคคลกลุ่มต่างๆ อย่าง ที่ปรากฏเป็นข่าว หนึ่งในของหนังสือพิมพ์มิถุนายน และบรรจุสอนให้เห็นถึงความศีลของในสังคมปัจจุบัน การที่คนศีล ย่อมมีเหตุผลจากจิตใจที่ถูกทอดทิ้งอย่างลึก ลึกลึก จึงเกิดความชุ่นวาย เศร้าหมอง และสกปรก มิดใจเป็นจิตภูมิ คือ เห็นผิดเป็นชอบ กลายเป็นผิดบาปผิดบรรยาทในสิ่งที่เลวร้ายผิดกฎหมายและศีลธรรม หมดความละอายต่อบาป ซึ่งยังผลให้เกิดความลับสนุนวุ่นวายในสังคมทุกระดับ ตั้งแต่เห็นกันอยู่ทั่วไป และที่สิ่งซึ่งลงไปกว่าความเดือดร้อนในกลุ่มชนคือ ความวิตกของธรรมชาติ ดังเราจะสังเกตเห็นมาลาวะต่างๆ ฝนแล้ง อากศร้อนออ่านอับอายผิดปกติ อุกภัยวาตภัย ถ้าพิจารณาในแบ่งก็คือเห็นได้ชัดแจ้งจากคน..เป็นผู้ควบคุมธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งหมดถ้าภัยที่สมาคมชั้นเท่าไหร่ ธรรมชาติดีและสิ่งแวดล้อมก็จะวิบัติความขึ้นเท่านั้น
การแก้ปัญหาของประเทศไทยที่ผ่านมา แม้จะเขียนไว้ในแผนพัฒนาประเทศว่า ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม แต่ในเชิงปฏิบัติแล้ว จงมุ่งเน้นกันเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ได้แก้ปัญหาสังคมกันอย่างถูกต้องจริงจัง เพราะผู้บริหารโดยทั่วไปไม่มีความเชื่อมั่นว่า ถ้าเศรษฐกิจดีแล้วสภาพต่างๆ ในสังคมจะดีตามมาเอง แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ฉะนั้นจะเห็นออกจากการหักหลังชิงชิงเด่น จนเกิดการมาดการณ์ในวงการธุรกิจ ซึ่งส่วนมีผังการดำรงค์มาเป็นระดับเศรษฐกิจระดับเศรษฐกิจ การฉ้อโกงในวงราชการและแผง ส่วนใหญ่จึงเป็นการกระทำของข้าราชการขั้นใหญ่ ที่มีเงินเดือนสูง มีอำนาจมาก ไม่ใช้ราชการชั้นผู้น้อยที่เงินเดือนต่ำ ทั้งนี้หลายเน้นย้ำว่า คนมีฐานะทางเศรษฐกิจแต่คุกคามธรรมะธรรม์นั้น มีอยู่ทั่วไป
ดังนี้ การแก้ปัญหาของประเทศ ปัญหาสังคม ควรได้รับความสำคัญเท่ากับปัญหาเศรษฐกิจ องค์ประกอบสำคัญของสังคมก็คือ จริยธรรมของประชาชน ถ้าประชาชนทุกคน ได้รับการปลูกฝังให้มีสมาธิร่วม โดยวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว แม้จะไม่มีปฏิบัติ