ชีวิตใหม่ผ่านการบวช วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน ธันวาคม พ.ศ.2553 หน้า 52
หน้าที่ 52 / 128

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้เขียนหลังจากที่บวชและให้ลูกชายบวช ซึ่งทั้งสองนำมาซึ่งความสุขและการรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะหลังจากได้ฟังนิทานเกี่ยวกับนกอินทรี ทำให้เข้าใจว่าชีวิตมีความหมายมากกว่าการเป็นแม่บ้านที่เลี้ยงลูก เท่ากับว่าจะสามารถทำหน้าที่เชิดชูความดีให้กับชาวโลกได้ โดยผู้เขียนได้ชวนผู้คนให้บวชอย่างจริงจังและมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่นี้แม้จะมีสุขภาพไม่ดี พร้อมด้วยความตั้งใจที่จะค้นหาความหมายใหม่ในชีวิต

หัวข้อประเด็น

-การบวชและชีวิตใหม่
-การเปลี่ยนแปลงชีวิต
-ความสุขจากการทำดี
-การเป็นผู้นำบุญ
-นิทานสอนใจเกี่ยวกับนกอินทรี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ชีวิตใหม่ คือ เราขอให้ลูกชายบวชพระในโครงการบวชพระแสนรูป เข้าพรรษาพร้อมกันทั่วประเทศ ส่วนลูกชายคนเล็กเราก็ให้เขาบวช สามเณรภาคฤดูร้อน ซึ่งพอเขาบวชเสร็จ เขาก็กลับตัวกลับใจเป็นคน ใหม่ รับผิดชอบ อ่อนโยน เหมือนเราได้ลูกคนใหม่ ที่ทำให้ไม่ทุกข์ใจ เหมือนที่ผ่านมา เกิด “ตั้งแต่เราตัดสินใจไปบวชอุบาสิกาแก้ว มีแต่สิ่งดี ๆ ขึ้นกับชีวิตเรามาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเราฝันว่า เห็นดวง อาทิตย์ดวงใหญ่ที่สว่างเจิดจ้าและทรงพลัง และมีพญาอินทรีบินออก มาจากดวงอาทิตย์ดวงนั้น พอฝันอย่างนี้ได้ไม่นาน พระอาจารย์ท่าน ก็เล่านิทานเรื่องพญาอินทรีกับแม่ไก่ให้ฟังว่า มีลูกนกอินทรีตกจากรังลงมายังฝูงลูกไก่ แล้วแม่ไก่ก็ เลี้ยง เพราะนึกว่าเป็นลูกของตน โดยสอนให้คุ้ยเขี่ยหาอาหารจนโต แต่พอวันหนึ่งลูกนกอินทรีเงยหน้า เห็นพญาอินทรีตัวใหญ่โผบินอย่างองอาจสง่างามอยู่บนท้องฟ้า ก็รู้สึกว่าตัวมันน่าจะทำสิ่งนั้นได้ แต่ แม่ไก่บอกว่า เราเป็นเพียงแค่ไก่กระจอก ไม่มีวันที่จะบินเหมือนพญาอินทรีได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณ ความเป็นอินทรีในสายเลือดของลูกนกอินทรีที่หลงมาในฝูงแม่ไก่ มันจึงแอบแม่ไก่เดินขึ้นไปบน หน้าผาและลองบินดูบ้าง ปรากฏว่ามันบินได้อย่างนกอินทรีจริง ๆ และรู้สึกว่าเป็นชีวิตที่ใช่ตัวเองมาก กว่าการเป็นไก่ มันจึงได้มารู้ความจริงว่า เราคือนกอินทรี พอฟังพระอาจารย์ท่านเล่าถึงตรงนี้ ก็ย้อน กลับมานึกถึงตัวเอง ว่าเราไม่ได้เกิดมาเพียงเพื่อเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก และอยู่ไปวัน ๆ ซึ่งหากทำแค่นั้น ก็คงไม่ต่างอะไรกับการเกิดเป็นไก่ เพราะเราลองใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ มาถึง ๔๒ ปี ก็ไม่เคยทำให้เรา มีความสุขเลย เพราะขณะที่เรามีความทุกข์ ความสุขมันอยู่ข้าง ๆ เรานี่เอง แต่เรากลับมองไม่เห็น เพราะเรามัวแต่ทุกข์ และในทำนองเดียวกัน ขณะที่เรากำลังสำลักความสุข ความทุกข์ก็กำลังจ่อที่จะ เล่นงานอยู่ ถ้าเราประมาท เราใช้ชีวิตอยู่กับการหลอกตัวเองมามาก ซึ่งความรู้สึกของตัวเองตอนนั้น ไม่ต่างอะไรกับลูกนกอินทรีที่หลงอยู่ในฝูงไก่ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวว่า เราจะมา เป็นผู้นำบุญ เราจะต้องลุกออกไปทำหน้าที่เป็นแสงสว่างให้กับชาวโลก เพราะชีวิตที่เกิดมานี้ เรา สามารถทำอะไรได้มากกว่าการเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก แล้วให้สามีเลี้ยง ๆ “ทุกวันนี้ เราทำหน้าที่ชวนคนบวชมาทุกโครงการ ตั้งแต่บวชพระ บวชอุบาสิกาแก้วรุ่น ๕๐๐,๐๐๐ คน รุ่น 9,000,000 คน ชวนทุกวัน หมู่บ้านหนึ่งเราไปถึง ๓ ครั้ง ไปจนกว่าเขาจะยอมบวช ค่ำไหนนอนนั่น กินนอนในรถ บางทีก็เอาเต็นท์ใส่รถไป ถ้าไปทำหน้าที่ในหมู่บ้านที่มีวัด ก็ไปอาศัยวัด กางเต็นท์นอน หรือไปนอนที่ศูนย์อบรมเยาวชนนครราชสีมา ทั้ง ที่เราเองก็ยังป่วยเป็นเบาหวาน และความดันอยู่ มีอาการวูบบ่อย ๆ แต่เราก็ทำอย่างชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เดินชวนคนทุกบ้าน อย่างไม่เว้น เพราะเรามานึกถึงตัวเองตอนที่อยากบวชมาก แล้วได้แต่รอวันแล้ววันเล่าที่จะให้ผู้นำบุญ มาถึงบ้านเรา แต่ก็ไม่มีคนมาชวนเราสักที ดังนั้นเราจึงไปทุกบ้าน ไปตามงานศพ ไปยังอำเภอและ หมู่บ้านที่ยังไม่เคยมีใครไป เพื่อนำข่าวการบวชไปบอกเขา ซึ่งขณะที่เราทำหน้าที่ชวนบวช เราก็ อธิษฐานตลอดเลยว่า ขอให้ชาติหน้าได้เกิดมาเจอหมู่คณะอีก ได้มาเจอหลวงปู่ เจอหลวงพ่อ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More