ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๐๕
สองมือ
ฝูงยุงที่บินลาดตระเวนเวียนวนใต้หลังคาร่มมานาน ได้จังหวะโจมตี
ยุงตัวหนึ่งในฝูงบินลงเกาะที่ศีรษะหลวงพ่อจนได้
พลาดไปถูกศีรษะหลวงพ่อมีสูง
การใช้มือปัดไล่ยุงขณะที่เดินไปด้วยเช่นนี้ โอกาส
มือหนึ่งกางร่ม อีกมือหนึ่งเริ่มปฏิบัติหน้าที่สำคัญที่เสี่ยงมาก มือทั้งสอง...ไม่ว่าง
เท้าไม่ว่าง สายตาไม่ว่าง มือไม่ว่าง หลวงพ่อเดินมาถึงกุฏิหลังหนึ่งเป็นกุฏิที่ว่าง
หลวงพ่อเคยพูดถึงเรื่องการทำงานไว้ว่า มือหนึ่งให้ถือฆ้อง อีกมือหนึ่งให้ถือขวาน
นั่นหมายถึงมือที่ถือขวานนอกจากจะลุยหักร้างถางพงเส้นทางสร้างบารมีไปแล้ว มือที่ถือฆ้องต้อง
ป่าวประกาศประชาสัมพันธ์ทำหน้าที่ชักชวนผู้อื่นไปด้วย สรุปว่ามือทั้งสองของนักสร้างบารมีนั้น
...ไม่ว่าง
จากท้องนาฟ้าโล่ง ๆ จนมาเป็นวัดที่สงบร่มรื่น มีผู้มีบุญมาประพฤติปฏิบัติธรรมนับล้านได้เช่นนี้
ผ่านมาหลายฤดูฝนจนไม้โตใหญ่ออกดอกให้ร่มเงา ทั้งหลวงพ่อ หลวงพี่ และรุ่นบุกเบิกทุกท่าน
ต้องลับขวานกันกี่รอบ ฆ้องที่ที่พังไปเท่าไร...ไม่รู้
รู้เพียงว่าพระมหาเถระที่เป็นเจ้าของกุฏิว่างหลังนั้น เมื่อช่วยกันสร้างวัดจนสำเร็จ แทนที่ท่านจะมี
เวลาว่าง ชีวิตท่านกลับ...ไม่ว่าง
ท่านเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์สาขาในต่างประเทศ
คือเริ่มต้นสร้างวัดและขยายงานพระศาสนาอีกครั้งในต่างแดน
ชีวิตของนักสร้างบารมี...ไม่มีว่าง
เท้าสองคู่ที่ไม่ว่างได้ก้าวเดินเรื่อยมาจนถึงกุฏิที่ว่างอีกหลังหนึ่ง
เท้าคู่แรกหยุด
เท้าคู่ที่สองหยุดตาม
สายตาคู่แรกมองไปที่กุฏิว่างหลังนั้น