ข้อความต้นฉบับในหน้า
นอกจากนางวิสาขาจะมีความงามเป็นเลิศแล้ว
นางยังมีกำลังเท่ากับช้าง ๕ เชือกอีกด้วย พระราชา
อยากจะทดลองว่า นางจะมีแรงมากอย่างนั้นจริงหรือ
ไม่ จึงได้ส่งข้างตกมันดุเชือกหนึ่งออกมาในขณะที่
นางกำลังกลับมาจากการฟังธรรม หญิงบริวารทั้ง
๕๐๐ คนของนางวิสาขา เห็นช้างแล้วต่างก็พากันวิ่ง
หนี แต่บางคนก็ไม่วิ่งหนีเพราะรักนางวิสาขา นาง
วิสาขารู้ว่า ถ้าเราจับช้างอย่างเต็มกำลังของเรา ช้าง
ก็จะตาย เราก็จะบาป พระราชาก็จะเสียช้าง เราก็
เสียศีลเพราะไปทำให้ช้างตาย นางมีอาการเป็นปกติ
ราบเรียบแบบคนมีบุญ รู้พละกำลังของตัว เห็นช้าง
เหมือนเห็นตั๊กแตน ด้วยความเมตตาไม่อยากให้ช้าง
ตาย นางวิสาขาเผชิญหน้ากับช้าง พร้อมกับส่งยิ้ม
แผ่เมตตา แต่ช้างไม่สนใจเพราะกำลังตกมัน ช้าง
วิ่งมาอย่างเร็วแรง เธอก็ใช้นิ้วจับไปที่งวงของช้าง
แล้วก็ผลักไปเบา ๆ ด้วยลีลาที่นุ่มนวล ช้างก็ไถล
ลื่นไปกับพื้น เสียการทรงตัว เกิดอาการงงงวยว่า
มนุษย์ท่านนี้เป็นใคร ทำไมถึงมีกำลังมากเหลือเกิน
ตั้งแต่เราเกิดมาไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย ช้างตกตะลึง
ถึงกับหายตกมันทันที หันหลังกลับเข้าโรงช้างด้วย
อาการงุนงงและสงบ
สร้างบุพพาราม อัครสถานแห่งบุญ
ต่อมานางวิสาขามีความปรารถนาจะสร้างวัด
จึงขายเครื่องประดับซึ่งมีมูลค่า ๙ โกฏิ นางใช้
ทรัพย์ในการซื้อที่ดิน ๙ โกฏิ ใช้เป็นค่าก่อสร้าง ๙
โกฏิ และทำการฉลองวิหารอีก ๙ โกฏิ รวมเป็น ๒๗
โกฏิ อาคารที่นางสร้างนั้น มี ๑,๐๐๐ ห้อง มี ๒ ชั้น
ชั้นล่าง ๕๐๐ ห้อง ชั้นบน ๕๐๐ ห้อง นางประดับ
ประดาตกแต่งวิหารบุพพารามจนวิจิตรงดงาม
กิจวัตรของยอดมหาอุบาสิกาแก้ว
กิจวัตรประจำวันที่วิสาขามหาอุบาสิกาแก้วทำ
เป็นประจําจนตลอดชีวิต คือ
๑. ถวายผ้าอาบน้ำฝน ทุกปี
๒. ถวายภัตตาหารแด่พระที่เดินทางมาจากที่