ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒. กิฤูฟังหวังได้แต่ความเจริญอย่างเดียว ไม่มีความเสื่อมเลย ตารบเท่าที่กิฤูยังพร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม และพร้อมเพรียงกันทำกิจที่สงมะพีงทำ
๓. กิฤูฟังหวังได้แต่ความเจริญอย่างเดียว ไม่มีความเสื่อมเลย ตารบเท่าที่กิฤูยังไม่บัญญัตสิ่งที่เรามีบัญญัติไว้ ไมลำล้างสิ่งที่เราบัญญัติไว้แล้ว ถอปฏิบัตินตามสิกขาบทที่เราบัญญัติไว้แล้ว
๔. กิฤูฟังหวังได้แตความเจริญอยางเดียว ไม่มีความเสื่อมเลย ตารบเท่าที่กิฤูยังสักกะ เครพ น์ถือ บูชา กิฤูเป็นครา เป็นร๊อตดงุ บวกานาน เป็นสงฆ์มิตรเป็นสงฆ์นิยา และสำคด้วยคำของท่านเหล่านี้เป็นสิ่งควรรับฟัง
๕. กิฤูฟังหวังได้แตความเจริญอยางเดียว ไม่มีความเสื่อมเลย ตารบเท่าที่กิฤูยังไม่ตกอยู่ในอำนาจแห่งตนๆ หากให้ดงฟงใหม่ที่ดีขึ้นแล้ว
๖. กิฤูฟังหวังได้แตความเจริญอยางเดียว ไม่มีความเสื่อมเลย ตารบเท่าที่กิฤูยังเป็นผู้มุ่งหวังเสนาะปะปา
๗. กิฤูฟังหวังได้แตความเจริญอยางเดียว ไม่มีความเสื่อมเลย ตารบเท่าที่กิฤูยังตั้งดีในภายในว่า “ทำอย่างไร เพื่อนพรหมจรรย์ท้งหลายผูมี่สงมาที่งมา พึงมาท่านที่มาแล้วพึ่งอยู่่งงผาสุก”
กิฤูของศาสนธรรม ๗ ประการนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สถาบันสงฆ์สามารถดำรงรักษาพระพุทธศาสนาให้อยู่ขึ้นตราบนานเท่านาน ซึ่งมีความจริงอยู่ว่า การบริหารงานเพื่อให้องค์กรใดองค์กรหนึ่งพัฒนา2ไม่ล้าสลาย หรือเพื่อให้ประเทศใดประเทศหนึ่งล่มลายเนื่องง่าย อย่างไรก็ดีตามกบัติอย่างก็อยะทำให้ดำรงอยู่คู่โลกไปนานแสนาน แต่เจ้าบริหารงานไม่ถูกต้องเหมาะสม ย่อมมีแต่ความเสื่อมโทรมล่มสลายประกอบเดียว
การที่พระพุทธศาสนซึ่งเป็นสถาบันที่ยิ่งใหญ มีอายุยืนยาวกว่าสองพันห้าร้อยปี เป็นสถาบันที่เก่าแก๋ มีอายุยาวกว่าหลายกว่ามน ๆ และประเทศหลาย ๆ ประเทศในโลกนี้ก็เพราะดำเนินงานการบริหารงานที่ทรงประสิทธิภาพขององค์สมมาสมบูรณ์ทรงกำหนดไว้
กิฤูปรีหานิธรรม ๗ ประการนี้ กำหนดแนวทางในการบริหารองค์กรสงฆ์ ๓ ด้าน ได้แก่ การบริหารองค์การที่ดี การฝึกฝนของสมาชิกที่ดี และการสมานฉันท์กับหมู่อื่น2