ข้อความต้นฉบับในหน้า
สา
ปกิณกธรรม
เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ. ๙
ให้อย่างไร
ให้ได้เกินควรเกินคาด
odbrym
“ภิกษุทั้งหลาย การให้ของสัตบุรุษมี ๕ ประการ คือ สัตบุรุษย่อมให้โดยเคารพ ให้โดย
อ่อนน้อม ให้ด้วยมือตนเอง ให้ของไม่เป็นเดน เห็นผลที่จะมาถึง จึงให้ทาน” (พุทธพจน์)
ความบังเอิญไม่มีในหลักของกฎแห่งกรรม
เพราะมนุษย์ที่เกิดมาในโลกนี้ มีกรรมปรุงแต่งให้
แตกต่างกัน บางคนเกิดมาหล่อ รวย สวย ฉลาด
ทำกิจการใดก็ประสบความสำเร็จเกินควรเกินคาด
แต่บางคนเกิดมาจน มีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ เป็น
คนอับจนปัญญา ทำสิ่งใดก็ไม่สำเร็จ คาดการณ์
สิ่งใดไว้ก็ผิดคาดทุกคราไป สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เป็น
ความบังเอิญ แต่มีบุญและบาปอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น
บุญ คือ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสุขและความสำเร็จ
ทุกอย่าง
เมื่อกล่าวถึงการให้ทาน แต่ละคนมีจุดหมาย
ในการให้ที่แตกต่างกันไป กิริยาอาการในขณะที่ให้
ก็แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะเข้าใจหลักใน
การให้ทานมากน้อยเพียงไร ในการให้ทานแต่ละ
ครั้งนั้น ความคิดที่เป็นเจตนาของผู้ให้ ซึ่งส่งผลไป
สู่การกระทำทางกาย ทางวาจา ที่แสดงออกมาใน
เวลาทําทาน มีความสำคัญมาก เพราะนอกจากจะ
บ่งบอกถึงคุณภาพใจของผู้ให้แล้ว ยังมีผลกระทบ
ต่ออานิสงส์ที่จะได้รับอีกด้วย ดังนั้น เพื่อให้ได้ผล
เกินควรเกินคาด เวลาให้ก็ต้องทำให้ถูกหลักวิชชา
อย่างง่าย ๆ ดังนี้
ควรให้ทานด้วยความเคารพ
นักให้ทานพันธุ์แท้นั้น จะให้ด้วยความเคารพ
ในทาน เคารพผู้ที่เรากำลังให้ แม้ว่าบุคคลนั้นจะ
เป็นคนยากจนอนาถา ก็ไม่แสดงอาการเหยียดหยาม
ผู้มารับทาน มีแต่ปลื้มปีติใจ นึกว่าเป็นโอกาสดีที่
จะได้อนุเคราะห์คนยากไร้ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมเกิด แก่
เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งนั้น การที่เขาลำบากยากจน
เพราะไม่ได้ให้ทานมาก่อน อานิสงส์ที่เราให้ทาน
กับคนยากจนจะได้เป็นคนจนยากตลอดไป การให้
อย่างนี้ท่านเรียกว่า สามีทานหรือทานบดี หมายถึง
ผู้เป็นใหญ่ในทานอย่างแท้จริง เพราะให้ด้วยความ
เคารพ ให้ด้วยความอ่อนน้อม มีจิตใจสูงส่งดีงาม
ให้ทานด้วยความนอบน้อม
เมื่อให้ทานกับพระสงฆ์ผู้ทรงศีล ก็ให้ด้วย
ความอ่อนน้อม โดยคิดว่าเป็นบุญลาภของเราที่ได้
ทำทานถูกเนื้อนาบุญ ขอให้บุญนี้หนุนส่งให้ชีวิต
เจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป แล้วจึงน้อมถวายท่าน
ด้วยความนอบน้อม สภาพใจของผู้ให้เป็นอย่างไร
จะได้อานิสงส์อย่างนั้น เราให้ทานด้วยความเคารพ
และอ่อนน้อมอานิสงส์นี้จะทำให้เกิดในตระกูลสูง จะ