ข้อความต้นฉบับในหน้า
ท้อง นั่งหันหน้าเข้าหาผม เห็นชัดมาก พอเอาใจ
ไปวางตรงจุดสว่างกลางท้องพระ ท่านก็ใหญ่ขึ้น
มาเลย ขยายออกมาจากกลางท้อง ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วท่านก็บิดตัวหมุนไปด้านหน้า เอาหลังของท่าน
ซ้อนตรงกับหลังของผม ทับร่างผมพอดี ผมถึง
เข้าใจคำว่า "เราเป็นพระ พระเป็นเรา” มันเป็น
อย่างนี้นี่เอง ผมรู้สึกถึงความสบายใจ มีความสุข
อย่างที่สุด”
ความสุขของพระอยู่ที่การชำระจิตให้
สะอาดบริสุทธิ์ พระจะพบความสุขแบบพระได้
ต้องหมั่นปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงองค์พระภายในตัว
เมื่อบวชเป็นพระแล้ว พระต้องหมั่นตั้งคำถาม
กับตนเอง ดังที่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
พระผู้ปราบมาร ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ท่านได้
บอกตัวเองในกลางพรรษาที่ ๑๒ ว่า “บัดนี้
ของจริงที่พระพุทธเจ้าท่านรู้ท่านเห็น เราก็ยังไม่ได้
บรรลุ ยังไม่รู้ไม่เห็น สมควรแล้วที่จะต้องกระทำ
อย่างจริงจัง” แล้วท่านก็ได้ตั้งใจทำความเพียร
โดยตั้งสัจจะอธิษฐานเอาชีวิตเป็นเดิมพันว่า "ถ้า
เรานั่งลงไปในครั้งนี้ ไม่เห็นธรรมที่พระพุทธเจ้า
ต้องการ เป็นอันไม่ลุกจากที่นี้จนหมดชีวิต”
ผลแห่งความเพียรของท่านเป็นประโยชน์
เกื้อกูลแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลายในฐานะของ
ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายมาตราบเท่าทุกวันนี้
บัดนี้วันออกพรรษาใกล้เข้ามาทุกขณะ
ควรที่พระธรรมทายาททั้งหลายจะตั้งคำถาม
กับตนเองเช่นกันว่า “นี่ก็บวชมาจะครบพรรษาแล้ว
ธรรมะของพระพุทธเจ้า ความสุขแบบพระ สุขใน
ผ้าเหลือง เราได้พบแล้วหรือยัง” ถ้ายังก็ต้องหมั่น
บำเพ็ญเพียรภาวนา อันเป็นแนวทางที่ผู้รู้ ผู้หลุดพ้น
ทั้งหลายท่านได้กระทำมา โดยปฏิบัติตามคำ
ที่พระเดชพระคุณหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี (สด
จนฺทสโร) ท่านได้สอนเอาไว้ว่า
“ในการบำเพ็ญภาวนา ความเพียรเป็นข้อ
สำคัญยิ่ง ต้องทำเสมอ ทำเนือง ๆ ในทุกอิริยาบถ
ไม่ว่า นั่งนอน เดิน ยืน และทำเรื่อยไป อย่าหยุด
อย่าละ อย่าทอดทิ้ง อย่าท้อแท้ มุ่งรุดหน้าเรื่อยไป
ผลจะเกิดวันหนึ่งไม่ต้องสงสัย ผลเกิดอย่างไรท่าน
รู้ได้ด้วยตัวของท่านเอง”