เส้นทางลัดในชีวิต วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน ตุลาคม พ.ศ.2553 หน้า 86
หน้าที่ 86 / 108

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับการเลือกเส้นทางลัดเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรและอุปสรรคในการเดินทาง โดยผู้เขียนเปรียบเทียบเส้นทางจราจรกับการเดินทางของใจ ระบุว่าการเดินทางในชีวิตมักมีอุปสรรคแม้ถนนจะโล่ง ซึ่งเปรียบเสมือนการมีครูที่คอยชี้แนะเส้นทางที่เหมาะสม ช่วยให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่น และจำเป็นต้องมีการสังเกตเพื่อให้รู้ว่าเรากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่

หัวข้อประเด็น

-เส้นทางลัด
-การพัฒนาตนเอง
-การเดินทางในชีวิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

50 ๐ มม เม เรื่อง : โค้ก อลงกรณ์ (www.banyaibook.com) ทางลัด เพื่อเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดแถวสามแยกตลาดไท ผมจึงตัดสินใจหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าถนนเลียบ คลอง จากนั้นก็ขับไปตามเส้นทางที่เคยได้ยินมาว่าสุดท้ายจะต้องขับเข้าซอยเล็ก ๆ ที่สามารถทะลุ ออกไปยังถนนใหญ่ได้ เส้นทาง ไม่ว่าจะตรง อ้อม ขรุขระหรือคดเคี้ยวเพียงใดก็ตาม หากช่วยให้เราไปถึงจุดหมาย ได้รวดเร็วและปลอดภัย ทางเส้นนั้นสำหรับผม คือ “ทางลัด” ขณะที่ขับตามสัญชาติญาณของผู้ใช้ถนนไปเรื่อย ๆ ผมได้ผ่านจุดสังเกตแต่ละจุดที่ตรงกัน กับรายละเอียดตามที่ได้ยินได้ฟังมา ยิ่งเป็นการเติมความมั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่า เราขับมา ถูกทาง และความมั่นใจนี้เองที่ทำให้ผมนึกถึงเส้นทางสัญจรอีกเส้นทางหนึ่งที่ยังเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ยังติด ๆ ขัด ๆ อยู่ เส้นทางที่ว่านี้คือ “เส้นทางเดินของใจ ผมเคยเปรียบเทียบเรื่องนี้เพื่อให้เห็นพัฒนาการในการเดินทางของตัวเองว่าอยู่ในระดับไหน โดยได้ แบ่งเส้นทางเดินของใจออกเป็นระดับต่าง ๆ จากพื้นฐานง่าย ๆ ไปจนขั้นสูง ถ้าเริ่มต้นระดับชั้นอนุบาลมีระยะทางรวมแล้วจากวัดพระธรรมกายไปถึงสนามบินดอนเมือง หากผมไปถึงดอนเมืองแล้วก็จะขยับระดับขึ้นไปยังชั้นประถม มัธยม อุดมศึกษา ด้วยการ เดินทางต่อไปยังภาคเหนือ ภาคใต้ หรือขึ้นเครื่องบินไปยังต่างประเทศ ทั้ง ๆ ที่อยากเดินทางไปได้ไกล ๆ เหมือนคนอื่น แต่เป็นเพราะเหตุใดไม่ทราบ แค่ สนามบินดอนเมืองหรือขยับใกล้เข้ามาแค่ตลาดรังสิต ผมกลับเดินทางไปไม่เคยถึงสักที ล่าสุดลองขยับเป้าหมายให้ใกล้เข้ามาอีกเหลือแค่ตลาดบางขันธ์ พอเริ่มออกเดินทางจาก วัดก็มักไปติดอยู่แถวสามแยกตลาดไททุกที แล้วก็ติดแช่อยู่อย่างนั้นไปไม่เคยถึงบางขันธ์ ทำไมถึงไปต่อไปไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ถนนหนทางก็โล่งว่าง ไม่มีรถติด ไม่มีสัญญาณไฟ น่าจะ ติดขัดอะไรสักอย่างระหว่างผมกับถนนสายนี้ และนี่เองทำให้ผมนึกถึง “ทางลัด” ย้อนนึกถึงวันหนึ่งในห้องปฏิบัติธรรม เมื่อได้สังเกตวิธีที่หลวงพ่อแนะนำผู้ปฏิบัติธรรมแต่ละท่าน ในวันนั้นทำให้ผมได้รู้ว่า การ ที่เรามีครูผู้คอยชี้ช่องส่องเส้นทางที่เหมาะสมให้นั้น นอกจากเราจะเดินทางได้ราบรื่นไม่ติด ๆ ขัด ๆ แล้ว ยังทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาหาที่ยูเทิร์นเมื่อมารู้ตัวภายหลังว่าเรากำลังแล่นออกนอก เส้นทาง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเราแล่นตรงดิ่งไปยังจุดหมายหรือเปล่า เราก็ต้องเพิ่มความสังเกต ochrym
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More