ข้อความต้นฉบับในหน้า
โครงการนี้ ไม่ต่างจากงานรวมรุ่นของ
หนุ่มสาว ที่ต่างเพศ หลากวัยแต่วางใจไว้ที่
เดียวกัน ซึ่งสมาธิกำลังมอบความสุขให้ทุกคน
อย่างเสมอภาค ขอเพียงแค่ยอมทำ “ดิฉันนั่งสมาธิ
ได้ดีมากเลยค่ะ ทีแรกนั่งขัดสมาธิแล้วเจ็บมาก แต่ก็
ไม่ใช้เก้าอี้เลย พยายามจะนั่ง จนตอนนี้รู้สึกดี
สบาย เหมือนมีพลังพิเศษที่ทำให้ชีวิตสดชื่น
มาก ๆ อยากนั่งสมาธิต่อ อยากให้โครงการมีต่อ
อีกสัก ๑๐ วัน” ทรูปาตี กรักกาเรอะ ในวัย ๖๕ ปี
คือ ผู้ที่ต้องออกมาร้องสุขด้วยอีกคน
ตราบใดที่ใจของมนุษย์ยังคงเป็นที่เก็บ
ทั้งของหอมจากบุญและของเหม็นจากบาป มนุษย์
ก็ยังต้องหันมามองใจตัวเองทุกวันเพื่อเลือกสิ่งที่ดี
ที่สุดไว้ในใจ ชาวพุทธอินเดียกำลังตระหนักดีถึง
สิ่งเหล่านี้ และในเมื่อเป็นการพบประสบการณ์ด้วย
ตัวเองมิใช่อ่านและจำ ฝึกวิถีพุทธด้วยตนเองมิได้
มาจากจินตนาการในหนังเรื่องใด สิ่งที่กำลังจะเกิด
ขึ้นนับจากนี้ จึงเป็นพลังเผยแผ่ที่จะกินใจเพื่อน
ร่วมชาติอีกนับพันล้านคน เพื่อนำไปสู่การค้นพบ
ความสุขที่หายไป
“พวกเราได้ศึกษาพุทธศาสนาอย่าง
แท้จริงแล้ว เรียกว่าเป็นชาวพุทธที่แท้จริงแล้ว”
เด็กหญิงชายในวัยน่ารัก พยายามประสานสำทับ
ก่อนจะได้กลับบ้าน ซึ่งอาจเป็นข้อสรุปที่ดีที่สุด
ของการอบรมครั้งนี้
ภายใต้เรื่องราวของสมาธิ หลักธรรม
และวัฒนธรรมชาวพุทธ ยังมีความจริงอีกมาก
รอการพิสูจน์จากนักปฏิบัติทั่วโลก ถือเป็นอีกครั้ง
ที่เราได้เห็นประสบการณ์ของคนใจถึง ที่กล้า
พาตัวเองมาพบเจอ เรียนรู้ และนำไปสู่การค้นพบ
ความสุขบนทางที่เลือกเอง นี่จะเป็นแบบอย่างให้
อีกหลายเชื้อชาติเกิดความรู้สึกว่า ศาสนาจะไม่
โรยรา ถ้าการปฏิบัติไม่โรยแรง และจะเกิดกำลังใจ
ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาขึ้นมาใหม่ แต่ไม่ว่าผล
จะเป็นอย่างไร ที่รู้ ๆ ขณะนี้ ก็คือ คนอินเดีย
อีกมากในยุคหลังพุทธกาลกว่า ๒,๐๐๐ ปี กำลัง
จะพบเรื่องราวแห่งความสุขดุจเดียวกัน ผ่านการ
ทำหน้าที่ของอุบาสก อุบาสิกาแก้วจบใหม่เหล่านี้
ๆ