ข้อความต้นฉบับในหน้า
ในโลกนี้ และสงครามก็ไม่เคยว่างเว้นไปจากโลก และที่ไม่เคยเว้นแม้แต่นาทีเดียว ก็คือ
สงครามกับกิเลสที่อยู่ในใจคน
คนประเภทนี้ คือ ครูดี ที่สามารถสอนตัวเองได้ทั้งทางโลกและทางธรรม และสอน
ลูกศิษย์ได้ทั้งทางโลกและทางธรรม
คำถามจึงเกิดขึ้นมาว่า “ครูดีคือใคร”
ครูดีคือใคร
ครู มาจากคำว่า “ครุ”
ครุ รากศัพท์เดิม แปลว่า หนัก
ความหนักของครูคืออะไร ครูที่สอนมาตั้งแต่ประถม มัธยม ท่านก็ไม่ได้แบกหาม
แต่ทำไมจึงแปลว่าหนัก
ที่หนักเพราะสิ่งที่ยากในโลกนี้ของมนุษย์ ก็คือ
1).
การจะรู้ว่า อะไรถูก-ผิด ดี-ชั่ว บุญ-บาป ควร-ไม่ควรทำ คือเรื่องยาก
๒. การชี้ได้ว่า นิสัยดี นิสัยชั่ว ที่จะก่อให้เกิดผลในทางดีและทางชั่วในอนาคต
เป็นเรื่องยาก
๓. การหาวิธีแก้ไขนิสัยชั่วให้ดีเป็นเรื่องยาก
ๆ
๔. การใช้กำลังกายและกำลังใจในการแก้ไขนิสัยเสีย ๆ ให้ผู้อื่นกลับมาดีเป็นเรื่อง
หนัก ครูสอนหนังสือ สอนวิชาการว่าหนักแล้ว แต่การแก้นิสัยเลว ๆ กลับหนักกว่านั้น
ครูที่สามารถแก้ไขนิสัยเลว ๆ และเพาะนิสัยดี ๆ ให้ลูกศิษย์ขึ้นมาได้ ครูแบบนี้
คือ ครูที่โลกต้องการ คนทั้งโลกจึงได้มากราบเท้าด้วยความเต็มใจ นี่คือ ครูดีที่โลกต้องการ
เขาภูมิใจที่ได้ครูดี ครูแบบนี้ เขาตามหามาทุกยุคทุกสมัย คนที่เจอครูประเภทนี้แล้วยัง
คิดว่าท่านเป็นเรือจ้าง เอาเงินฟาดหัวครู ลูกศิษย์ประเภทนี้จะตกนรกอย่างเดียว
ดังนั้น ในความหมายที่แท้จริง ครู คือ ผู้แบกภาระหนัก
หนักในการแก้ไขความโง่ของลูกศิษย์จนกระทั่งพึ่งตัวเองเป็น
©).
ต้องสอนให้ศิษย์ทำมาหากินเป็น
ต้องสอนให้ศิษย์รักษาสุขภาพเป็น
๒. หนักในการพลิกมิจฉาทิฐิให้เป็นสัมมาทิฐิ
ว่าไม่มีความรู้
คนที่เป็นมิจฉาทิฐิไม่ใช่คนโง่ เขาฉลาด แต่จับทิศผิด จึงเอาความฉลาดไปใช้
ในทางที่ผิด
คนโง่คือคนไม่มีความรู้ จึงไม่มีปัญญาจะไปทำความเดือดร้อนให้ใคร เพราะ
คนที่ทำความเดือดร้อนไม่ใช่คนโง่ เป็นคนฉลาด แต่เห็นผิดเป็นชอบ เห็น
ถูกเป็นผิด จึงทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นและตัวเอง จึงสามารถปิดสวรรค์