ข้อความต้นฉบับในหน้า
พบปะกัน แต่มีกิ จังหวะเวลาที่พญานาคตัวเล็ก ที่ลูกกำลังดูอยู่อน้น ตลอดเวลาลูก ได้ยินเสียงเล่า จากพญานาคตัวหนึ่ง ลูกหนู ไปดู ก็เห็นพญานาคตัวใหญ่มาก มีสีทอง เกล็ดแข็งแวววาวาใหญ่ที่สุดในจำนวนที่เห็น ในขณะที่ลูกเห็นทั้งตอนนี้เป็นพญานาค และด้านหน้าของพญานาคเป็นตัวมนุษย์ (คล้ายรูปภาพในหนังสือพญานาคที่ออกตอน ต้นเดือนตุลาคม แต่เขาอายุกว่ากว่านั้น หัวเส้ากลามม่เส้นสีเขียว ๆ รัดตรงจูง เสื้อแน่น เนื้อเป็นสีทองเหมือนถอดออกไม่ได้ มีเครื่องประดับเป็นสวล มีทิมสีแดงอยู่ตรงกลาง เขาตัวใหญ่กว่าพญานาคตัวอื่นที่กำลังพ่นดึงไฟ แล้วรู้สึกว่าแม่ไพ่โงนเงยมากค่ะ ทั้งที่ปกติเครื่องไม่ได้อยู่ในความฝัน แม่ไพ่โงนเงยมากที่สุด ในนั้นเหมือนอคนอคและพญานาคเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในนั้น (เหมือนเป็นหัวหน้าค่ะ) มีขนดใหญ่และลงงาม สง่งแยงเป็นประกายมากกว่า ตัวใช่แต่ไม่แก่ง่องแบบมีเครื่องเทียบกับอายุมนุษย์ก็ประมาณ 30 กว่าปีดูภูมิมฐาน
พญานาคตัวนี้เล่าถึงประวัติความเป็นมาของการพ่นดวงไฟให้ลูกฟัง โดยมีภาษีประกอบด้วย เหมือนภาพสไลด์เล็ก ๆ ประกอบการเล่า โดยเล่าถึงเหตุผลของการพ่นดวงไฟว่า เดิมพญานาคกลุ่มอื่นไม่ใดมีการพ่นดวงไฟแบบนี้ และตัวเขาไม่ใช่เป็นตัวแรกที่พ่นดวงไฟ แต่เขาทำตามบรรพบุรุษ แล้วก็มีภาพหนึ่งในภาพที่สุดจากคศีสวยมาก เป็งรัศมีออกมาจากคนที่มารออยู่ตรงนั้นได้ หลายสีแตกต่างกันไป แต่แสงจากรอบ ๆ ตัวพญานาคว่าสิ่งที่สุด ยิ่งกว่าวงอาทิตย์ แต่เย็น
พญานาคบอกว่าเขาพ่นดวงไฟเพื่อบูชาพระพุทธเจ้าในวันนั้น แล้วทำสืบต่อกันมา ถึงวันนี้จนถึงทุกวันนี้ โดยทุกครั้งที่ออกมาพ่นดวงไฟ เขาจะฉาจากวันที่พระจันทร์ส่องกลมโต แล้วมีพระจันทรขึ้นมาให้ในวันที่พระจันทรสว่าง แล้วก็มีการพ่นดวงไฟเปรียบเหมือนงานบุญ (งานวัด) ของโลกมนุษย์ ที่ทุกคนจะช่วยกันเพื่อแสดงความศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า และเป็นการสร้างบุญด้วย
เขาเล่าว่าไม่ใช่นาทุกตัวจะออกมาพ่นดวงไฟแบบเขา พญานาคกลุ่มอื่นในช่วงเวลานี้ก็อจะศอลอย่างเดียวอยู่ในทีของเขามีความพญานาคคือศอลในที่ของเขาให้ดู (เขาดตัว ไม่ได้นอนยาว ๆ) ในที่ที่อีศจะเป็นล๊อก ๆ ของใครของมัน เป็นช่องเป็นโรงไม่มีน้ำ แล้วก็กล่าวเดิมบรรพบุรุษเขาไม่ได้