การฝึกนิสัยดีผ่านห้องครัว วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน พฤษภาคม พ.ศ.2557 หน้า 99
หน้าที่ 99 / 136

สรุปเนื้อหา

บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของห้องครัวและห้องอาหารในการสร้างนิสัยดีให้กับลูก โดยการทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวช่วยให้ลูกมีโอกาสเรียนรู้การสื่อสารที่เหมาะสม และพ่อแม่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีในการพูดคุยและถ่ายทอดค่านิยมที่ดี ผ่านการกินข้าวร่วมกัน. ห้องครัวเป็นสถานที่ที่ครอบครัวมาพบปะกัน และมีการสื่อสารระหว่างกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นโอกาสในการอบรมสั่งสอนและฝึกฝนการพูดให้กับเด็ก ๆ การมีส่วนร่วมในการทำอาหารและการกินข้าวร่วมกันช่วยสร้างความอบอุ่นและทำให้สมาชิกในครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ดี รวมถึงสามารถฝึกให้เด็กเป็นคนละเอียด รอบคอบ และมีจรรยาบรรณที่ดี. ครอบครัวที่ใส่ใจในเรื่องนี้จะสามารถสร้างลูกให้เป็นคนเก่ง และผู้ปกครองก็จะเก่งเหมือนกัน. หากพ่อแม่ไม่มีความรู้ในการสอน จำเป็นต้องหาครูมาสอน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต.

หัวข้อประเด็น

-ห้องครัวและการเรียนรู้
-การสื่อสารในครอบครัว
-การสร้างนิสัยดี
-การกินข้าวร่วมกัน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ห้องครัว ว่าพื้นฐานของงานเหล่านี้ลูกเราเป็นหรือไม่ ถ้าทำไม่เป็นมีแต่ตายกับตาย เพราะเมื่อไม่เคยทำงานพื้นฐาน ก็จะไม่ได้ค่าในรายละเอียดเลย ไม่ได้ฝึกความชำนาญ นิสนะเพราะนิสนะง่าย นิสนะท่อไรหยาบๆ ติดต่อไรเรีบชดแล้ว ๔. นิสนะลูกพูดไม่ได้เพราะ มีกรณีตัวอย่าง บ้านนี้พอเขาพูดเพราะ แมเขาพูดเพราะ แต่ลูกพูดไม่เพราะ ส่วนบ้านโน้นแม่พูดเพราะ พ่อพูดเพราะ แล้วลูกก็พูดเพราะ สิ่งที่เหมือนกันของทั้งสองบ้านนี้ก็คือ พ่อแม่พูดเพราะมีเหตุผล มีการศึกษาได้ แต่กไปคนละทาง บ้านหนึ่งพูดเพราะ อีกบ้านพูดไม่เพราะทำไม่จึงเป็นอย่างนั้น ทั้ง ๒ ท่สองบ้านนี้มีต้นแบบดีดี สาเหตุมาจากห้องอาหาร บ้านหนึ่งพ่อแม่พูดเพราะ ลูกก็พูดเพราะเหมือนกัน เพราะว่าเมื่อถึงเวลามื้ออาหารพ่อแม่ลูกกินข้าวพร้อมกัน โอกาสที่คนในบ้านจะเจอกันพร้อม ๆ กันมีม้งเดียว นั่นคือ ห้องอาหารห้องครัว ส่วนห้องนอนต่างบ้านต่างจะไปนอนแล้ว เจอกันก็ไม่อยากคุยกันในห้องน้ำก็ใช้ที่ละคน ห้องแต่งตัวก็ไม่ใช่ ถ้าแต่งตัวเมื่อใดแสดงว่าเตรียมจะไปแล้ว ไม่ใช่เวลา คุยกัน ยิ่งห้องทำงานต่างคนต่างไปทำงาน ดังนั้นคนในบ้านจะมีโอกาสพร้อมหน้าพร้อมตาและมีโอกาสคุยกันอยู่เวลากินข้าวนั่นเอง เมื่อคู่ดั่งกัน ร่วมโต๊ะอาหารกัน อย่างไรจะต้องคุยกัน ถ้าคุยแล้วมีคุณพ่อคุณแม่อุ้ยคู่คุยอะไรผิดพลาดอย่างไร พอแม่ตื่นเต้นเลย เตือนเลย "นี้พูดอยู่ งนี้ไม่ถูก" "พูดอย่างนี้เสียงดังไป" "พูดอย่างนี้เจ้ารวมกันนี่ แกไขนะ" ถ้าลูกกินข้าวด้วยกัน พ่อแม่จะเป็นกรรมการ จะเป็นครูฝึกพูด ฝึกตัดสิน แล้วครอบครัวนั้นก็จะมีความสุข สามารถที่จะตัดสินใจในเรื่องอะไรต่ออะไรในเวลาทำงานต่อไปข้างหน้าแต่ปฺฏิบให้ลูกกินข้าวลำพัง เวลาเถียงกัน ออกความเห็นกัน เตือนกันไม่ได้ เสียงก็ในวงอาหาร ผลสุดท้ายไม่เกี่ยวกันเท่าที่ควร พูดกับไม่เพราะ ตัดสินก็ไม่ได้ ห้องนี้จึงได้ชื่อว่า ห้องมหาประมาณ ประมาณในการกิน ประมาณในการใช้ ประมาณในการพูด ประมาณในการเตือน จะฝึกลูกให้มคนเป็น ก็ฝึกกันแล้ว จะติให้ก่อน ก็ต้องฝึกตรงนี้ดีก่อนเป็นเรื่องที่ต้องฝึก ฝึกตรงห้องครัวห้องอาหารนี้ดีที่สุด จากตัวอย่างที่ยกมา เรื่องนี้ เป็นหลักฐานให้เราเห็นชัดว่า ห้องทุกห้องและงานทุกอย่างที่สามารถฝึกให้เป็นคนละเอียด เป็นคนช่างสังเกต เป็นคนขยัน รวมทั้งฝึกให้จรรยาบรรณประกันได้ดังนั้นถ้าให้ลูกได้ดี ต้องมีภูมิคุ้มกันทุกองค์ ถ้าใช้งานไม่เป็น นิสนะเสียมากจากห้องเหล่านี้ ถ้าคุณแม่ไม่รู้เทคนิคในการสอน หรือคุณพ่อคุณแม่เองก็ยังทำไม่เป็น ก็ต้องหาครูมาสอน ลูกให้เข้าไป ถ้ามาไม่ได้ อินtrarเกิดในบ้านเราแล้ว ลูกคนนั้น จะต้องเป็นศัตรูกับพ่อแม่ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งในอนาคตได้ เพราะเขาไม่ได้ดูดี ถ้าครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งหน้ากลัวและให้ความใส่ใจจริงกับการสร้างนิสัยดี กำจัดนิสัยชั่วจากห้องแห่งชีวิต ลูกบ้านนั้นก็จะเป็นลูกเก่ง พ่อบ้านก็จะเป็นผู้เก่ง เมบ้านก็จะเป็นเมเก่ง เมบ้านหลังนั้นก็เป็นจุดมานบนดินของทุกคนในครอบครัว
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More