ข้อความต้นฉบับในหน้า
DD
พระแม่คงคา หรือขอบคุณสายน้ำที่ให้อาบ และดื่มกิน
เป็นต้น สำหรับชาวพุทธโบราณผู้มีจิตใจงดงาม
ในฐานะที่เราเป็นพุทธศาสนิกชน ควร
ปรารภเหตุนี้ด้วยการชำระกาย วาจา ใจให้สะอาด
เมื่อปรารภเหตุจะทำการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บริสุทธิ์ โดยนึกถึงพระรัตนตรัย ทำใจให้หยุดนิ่ง
เห็นว่า วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง ราตรีสว่างไสว
น้ำใสไหลเย็นเต็มตลิ่ง อากาศในฤดูนี้เย็นสบาย
เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะลอยกระทงเพื่อน้อมถวาย
เป็นพุทธบูชา ซึ่งประเพณีนี้มีมาแต่สมัยพระร่วง ซึ่ง
มีเรื่องเล่าสืบ ๆ กันมาว่า “เมื่อสมเด็จพระร่วงเจ้า
ได้เสด็จฯ ทางชลมารค ทอดพระเนตรกระทงของ
นางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ถือ
เป็นเยี่ยงอย่าง และให้จัดประเพณีลอยกระทงขึ้น
เป็นประจำทุกปี ดังพระราชดำรัสที่ว่า.. ตั้งแต่นี้
สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศ
ถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน ๑๒ ให้ทำ
โคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาท
นัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน" พิธีลอยกระทงจึง
เปลี่ยนรูปแบบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จุดประทีปในกระทงบูชาพระรัตนตรัย
นับจากนี้ไปการลอยกระทง...ไม่ใช่ลอยเพื่อ
ความสนุกสนานกันเฉย ๆ การลอยกระทง...
ไม่ควรเป็น
เพียงงานนักขัตฤกษ์ที่มีมหรสพรื่นเริงเท่านั้น การ
ลอยกระทง... ไม่ใช่เป็นเพียงลอยเพื่อเสี่ยงทาย เสี่ยง
รัก หรือหาคู่ ที่หนุ่มสาวชักชวนกันไปอธิษฐานแต่
เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อย่างนั้นไม่ได้ประโยชน์อะไร เมื่อ
จะต้องเสียเวลา เสียเงินตรา ก็ควรให้เป็นทางมาแห่ง
บุญกุศลติดตัวเราข้ามชาติ
ลอยกระทง : ลอยกิเลส
เวลาลอยกระทงให้เจริญพุทธานุสติ นึกถึง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ข้าพเจ้าลอยกระทงเพื่อบูชา
พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ที่หาดทรายริมแม่น้ำ