ข้อความต้นฉบับในหน้า
ตัวเองเหมือนกันว่า ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวเอาแรงมา
จากไหน บอกบุญทั้งคนรู้จักและไม่รู้จัก จนเวลา
กินก็ไม่ได้กิน เวลานอนก็ไม่ได้นอน หากใครมาเห็น
ผมตอนนั้น อาจจะเข้าใจไปว่า ผมบ้าไปแล้ว
แต่พอมาถึงวันนี้ สิ่งนี้เอง คือ สิ่งที่ผมนึกปลื้ม
ตลอดเวลา
ช่วงที่บอกบุญนั้น ผมลุยทั้งทำงาน ทั้ง
บอกบุญ แล้วไม่ได้พัก จนผมป่วยหนักมาก
คุณอารีพันธุ์อุปัฏฐากคุณยายเลยช่วยเป็นธุระ
รีบนำผมส่งโรงพยาบาล คุณยายบอกผมว่า
“ไม่ต้องกังวลนะคุณ ยายจะคุมบุญให้ หาย
แน่นอน” หลังจากที่หมอตรวจอาการป่วยของผม
หมอวินิจฉัยไม่ได้ว่าเป็นอะไร แต่สภาวะร่างกาย
ของผมตอนนั้นอยู่ในขั้นวิกฤตมาก เลือดออก
ตามทวารต่าง ตั้งแต่ผิวหนัง
ถ่ายเป็นเลือด ซึ่งเป็นอาการธาตุไฟแตก ดูแล้ว
ไม่น่ารอด ซึ่งคุณยายท่านก็เมตตาให้คุณอารีพันธุ์
ๆ
จมูก ปาก
โทรมาถามอาการและฝากบอกว่า “ไม่ต้องห่วง
๗
ยายคุมบุญให้” ซึ่งก็แปลกมากว่า ขณะที่อาการ
ผมสาหัสขนาดนั้น แต่กลางท้องที่ศูนย์กลางกาย
ฐานที่ ๗ ของผมสว่างมาก เป็นความสว่าง
ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา จนมีน้ำตาแห่งความปีติ
ไหลออกมาเรื่อย ๆ เพราะคุณยายท่านใช้วิชชา
ธรรมกายกลั่นแก้วิบากกรรมให้ จนสุดท้ายผมมี
อาการดีขึ้นและรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ นี่ถ้า
ไม่ใช่บารมีคุณยาย ชีวิตผมก็คงหาไม่แล้ว อีกทั้ง
ท่านยังอวยพรผมว่า ด้วยผลบุญที่ผมทำ ขอให้
รวยพันล้าน หมื่นล้าน!!
การที่ผมทุ่มทำบุญ แม้ในภาวะที่ไม่มี
อย่างนี้ แต่ทำอย่างชนิดที่เอาชีวิตเป็นเดิมพัน
ผลที่เห็นได้ชัดคือ สถาบันการเงินที่ผมทำ
ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ จากเดิมช่วงเปิดสหกรณ์
ไม่มีใครเชื่อถือ ผมมีเงินทุนในการ
ดำเนินการเพียง ๑,๒๖๐ บาท แถมยังมีคน
ใหม่ ๆ
มาบอกว่า เห็นผมหน้าที่ อย่างนี้ จะมา
ๆ
หลอกเอาเงินหรือเปล่า จนกระทั่งปัจจุบัน