ข้อความต้นฉบับในหน้า
การรักษีดด้วยการสมาทานศีลบาบ หรือการำจิตให้เลื่อมใสในพระรัตนตรัย เช่นการบูชาพระเดี๋ยว เป็นต้น ได้อานิสงส์รองลงมา
ตัวอย่างกรณีศึกษา คาถาธรรมบทเรื่องมัจฉมาณฑลี เด็กหนุ่มที่ตลอดชีวิต ไม่เคยทำบาปอะไรเลย แค่ทำจิตให้เลื่อมใสในพระศาสดาก่อนละโลก บังเกิดในวิมานทองสูง ๓ โยชน์ (๑ โยชน์ = ๑๖ ก.ม.)ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์,
หรืออีกกรณีหนึ่ง คาถาธรรมบทเรื่องนางลำเทาวดีดา ได้ใส่บาตรด้วยข้าวตอกกับพระมหากัสสะปะเถระผู้เป็นพระอรหันต์ แล้วถุงพื้นก็ตาย ตายขณะที่เลื่อมใส ละโลกแล้วบังเกิดในวิมานทองสูง ๓ โยชน์ ชั้นดาวดึงส์ เช่นกัน
พระมงคลเทพมุนี (สด จนทสโร) เคยเทสสอนไว้ว่า ที่นั่งภาวนาทำใจให้หยุด ให้หยุดสักกะพระรีปฏิเสษเท่านั้น ที่สร้างโบส ถ วิหาร ศาลาการเปรียญ สมัโคโหร ง ซึ่งยอดคล้องตรงกันในสิ่งที่พระตาตรตรัสไว้ในพระสูตรนี้
เมื่อเราพิจารณาใคร่ครวญเนื้อความแบบย้อนกลับ (ปฏิโลม) เราจะเห็นภาพชัดขึ้นว่า แท้ที่จริงเมื่อเรานาสงบุญด้วยการทำทาน เราเพียรพยายามหาบุคคล ผู็เป็นเนื็บบุญอันสูงมากที่สุด แต่เมื่อเราต้องการบุญที่มากกว่านั้น เราย้อกลับต้องทำจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัย รักษาศีล ต้องเจริญเมตตาจิต เจริญอนุภษัชฌา เรียกได้ว่า ตนเองเป็นที่พึ่งแห่งตน ดังที่พระเทพญาณมหามุนี วีระ (หลวงพ่อมงคลฯ) ท่านได้ให้คำบรรยายไว้ว่า “พระธรรมกายในตัว เป็นเนื้อนบุญของเรา”