ข้อความต้นฉบับในหน้า
สองตระกูลผลัดกันเลี้ยงดู พระราชาทรงตัดสินว่าวุฒิ "หนึ่งคนนี้ใคร ๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่บุตร เพราะเธอได้ท้องมาถึง ๑๐ เดือน แต่หญิงอีกคนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่บุตร เพราะว่าพบเด็กในท้องปลา และช่วยเหลือเด็กเอาไว้ เอาอย่างนี้แล้วกันทั้งสองตระกูลจงเลี้ยงดูเด็กคนนี้ร่วมกันเกิด ทั้งสองตระกูลจึงเลี้ยงดูเด็กเหมือนกันโดยผลัดกันนำเด็กไปเลี้ยงดูฝ่ายละ ๕ เดือน เมื่อถึงวาระของตนก็ให้เรามารับ เรือของพวกเขามิ่มเทปแก้วอยู่บนเรือด้วย และม้วงดนตรีบับประโคมเพื่อให้เด็กเข้าไปในเมือง แล้วให้เด็กสวมสุขสมบดีในปราสาท การเดินทางไป-มาระหว่างสองเมืองเช่นนี้มีมานานอายุได้ ๘๐ ปีเดียว ด้วยเหตุที่ตระกูลทั้งสองเกี่ยวข้องกับเขา เขาจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้มีพระคุณของทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นที่ชื่นชมของชาวบ้าน ผู้มีอุปการคุณของทั้งสองเมือง เขาจึงได้ไปแล้ว ๑๐ เดือน แต่หญิงอีกคนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่บุตร เพราะว่าพบเด็กในท้องปลา และช่วยเหลือเด็กเอาไว้ เอาอย่างนี้แล้วกันทั้งสองตระกูลจงเลี้ยงดูเด็กคนนี้ร่วมกันเกิด ทั้งสองตระกูลจึงเลี้ยงดูเด็กเหมือนกันโดยผลัดกันนำเด็กไปเลี้ยงดูฝ่ายละ ๕ เดือน เมื่อถึงวาระของตนก็ให้เรามารับ เรือของพวกเขามิ่มเทปแก้วอยู่บนเรือด้วย และม้วงดนตรีบับประโคมเพื่อให้เด็กเข้าไปในเมือง แล้วให้เด็กสวมสุขสมบดีในปราสาท การเดินทางไป-มาระหว่างสองเมืองเช่นนี้มีมานานอายุได้ ๘๐ ปีเดียว ด้วยเหตุที่ตระกูลทั้งสองเกี่ยวข้องกับเขา เขาจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้มีพระคุณของทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นที่ชื่นชมของชาวบ้าน ผู้มีอุปการคุณของทั้งสองเมือง เขาจึงได้ไปแล้ว ๑๐ เดือน แต่หญิงอีกคนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่บุตร เพราะว่าพบเด็กในท้องปลา และช่วยเหลือเด็กเอาไว้ เอาอย่างนี้แล้วกันทั้งสองตระกูลจงเลี้ยงดูเด็กคนนี้ร่วมกันเกิด ทั้งสองตระกูลจึงเลี้ยงดูเด็กเหมือนกันโดยผลัดกันนำเด็กไปเลี้ยงดูฝ่ายละ ๕ เดือน เมื่อถึงวาระของตนก็ให้เรามารับ เรือของพวกเขามิ่มเทปแก้วอยู่บนเรือด้วย และม้วงดนตรีบับประโคมเพื่อให้เด็กเข้าไปในเมือง แล้วให้เด็กสวมสุขสมบดีในปราสาท