การเดินทางของคณะสงฆ์สู่ศรีลังกา วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน สิงหาคม พ.ศ.2552 หน้า 7
หน้าที่ 7 / 128

สรุปเนื้อหา

บทความนี้บรรยายถึงการเดินทางของคณะสงฆ์ที่มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการประกาศพระศาสนาที่ศรีลังกา แม้จะเผชิญกับความยากลำบากหลายประการ ทั้งจากพายุในทะเลและความไม่แน่นอนในการเดินทาง แต่ด้วยความกล้าหาญที่คณะสงฆ์มี ทำให้พวกเขาสามารถเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีในที่สุด วันอาสาฬหบูชาถือเป็นวันสำคัญที่ได้มีการอุปสมบท เพื่อฟื้นฟูพระศาสนาในพื้นที่นั้น ซึ่งเป็นความหวังและความฝันที่ได้รอคอยมานาน.

หัวข้อประเด็น

-การเดินทางของคณะสงฆ์
-การประกาศพระศาสนา
-ความท้าทายในทะเล
-วันอาสาฬหบูชา
-ความสำคัญของพิธีอุปสมบท

ข้อความต้นฉบับในหน้า

อยู่บ่อยครั้ง แต่หัวใจในการประกาศพระศาสนาของ คณะสงฆ์นั้นพร้อมเสมอที่จะไปทำหน้าที่เป็นแสงสว่าง ให้กับชาวศรีลังกา แต่พระเจ้าบรมโกศกลับทรงเป็น ห่วงไม่กล้าที่จะส่งท่านไปอีก เพราะเกรงว่าจะเป็น การเอาชีวิตไปทิ้งกลางทะเลเสียเปล่า ต่อมาเมื่อมี ชาวฮอลันดาซึ่งขึ้นชื่อว่ามีความชำนาญในการเดิน เรืออาสาที่จะนำคณะสงฆ์ไป พระองค์จึงทรงมี พระบรมราชานุญาตให้คณะสงฆ์ออกเดินทางอีกครั้ง ในครั้งนี้ คณะพระอุบาลีต้องเผชิญมรสุมใน ทะเลไม่แพ้กับครั้งแรก เพราะเกิดพายุในทะเลแรง จัดมาก จนถึงกับกางใบเรือไม่ทัน ทำให้เรือเอียง ไปมาแทบพลิกจม เสาเรือหลายต้นหักพังทับลงมา กลางเรือ ธงเรือหลุดลอยตกทะเลไป แต่ถึงกระนั้น ผู้ที่อยู่ในเรือก็ไม่หวั่นไหว เพราะต่างนึกถึงปณิธาน อันยิ่งใหญ่ในการเดินทางข้ามมหาสมุทร เส้นทางเดินเรือเริ่มตั้งแต่อยุธยาแล้วออกจาก อ่าวไทยมุ่งไปเกาะชวาก่อน แล้วเลี้ยวอ้อมไปทาง มหาสมุทรอินเดีย ขึ้นเทียบท่าที่เกาะลังกา แล้วเข้าไป ยังตัวเมืองแคนดี รวมระยะเวลากว่า ๕ เดือน เมื่อ ไปถึงจุดหมาย พระมหากษัตริย์และชาวเมืองได้ออก มาต้อนรับอย่างเอิกเกริก เมื่อท่านพระอุบาลีได้เล่า เรื่องการผจญภัยให้สามเณรสรณังกรฟังว่า “เรือของ เราแทบจะอับปาง เกือบเสียชีวิตกลางมหาสมุทร เสียแล้ว” สามเณรฟังแล้วก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่พลางพูด ว่า "ถ้าเรืออับปาง คงจะไม่ได้พบพวกท่าน ถ้าไม่มี พวกท่าน พระศาสนาก็ไม่อาจกลับคืนมาได้อีกเลย” วันประวัติศาสตร์แห่งการรอคอย และแล้ว ณ วันอาสาฬหบูชา เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๒๙๖ เวลาพลบค่ำ ก็มีพิธีอุปสมบท
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More