ข้อความต้นฉบับในหน้า
หมู่บ้านใดที่สมาชิกแต่ละคนล้วนมีคุณสมบัติของกัลยาณมิตร แน่นอนเหลือเกินว่า
หมู่บ้านนั้นจะประสบแต่สันติสุขและมีความเจริญรุ่งเรือง เพราะอะไร เพราะทุกคน
ในหมู่บ้านล้วนเป็นคนมีศีล ปลอดอบายมุข แต่ละคนล้วนขวนขวาย พากเพียร
สั่งสมบุญกุศลไปพร้อม ๆ กับการทำมาหากิน
๓) ความสำนึกรับผิดชอบต่อศีลธรรมทาง
เศรษฐกิจด้วยการไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุข 5 ประการ
๔) ความสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
ซึ่งแบ่งออกได้เป็น ๒ ประเภท คือ
๔.๑) สิ่งแวดล้อมที่เป็นบุคคล ได้แก่ ทิศ 5
ของตนเอง ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์อันดีต่อทิศ 5
๔.๒) สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ซึ่งมีทั้ง
สิ่งแวดล้อมในเมือง และสิ่งแวดล้อมที่เป็นทรัพยากร
ตามธรรมชาติ ตามหุบเขาลำเนาไพร ด้วยการไม่
ทำลายและพยายามช่วยกันอนุรักษ์ไว้
จากความตั้งใจและพยายามตั้งตนให้อยู่ใน
ความดีดังกล่าวแล้วนี้ ย่อมแสดงว่า คนดีมีสัมมาทิฐิ
มีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์ ไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ใคร
หรือกล่าวสั้น ๆ ว่า “ไม่แสบ” นั่นเอง
ล.
ก. รู้จักสร้างเครือข่ายกัลยาณมิตร การสร้าง
เครือข่ายกัลยาณมิตรเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้อง
สร้างให้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ชุมชน และสังคมโดยทั่วไป
เพราะการสร้างเครือข่ายกัลยาณมิตรเป็นวิธีเดียว
ที่สามารถป้องกันและกำจัดมิจฉาทิฐิชนให้หมดไป
จากหมู่บ้าน ชุมชน และสังคมได้โดยเด็ดขาด
หมู่บ้านใดที่สมาชิกแต่ละคนล้วนมีคุณสมบัติ
ของกัลยาณมิตร แน่นอนเหลือเกินว่าหมู่บ้านนั้น
จะประสบแต่สันติสุขและมีความเจริญรุ่งเรือง
เพราะอะไร เพราะทุกคนในหมู่บ้านล้วนเป็นคนมีศีล
ปลอดอบายมุข แต่ละคนล้วนขวนขวาย พากเพียร
สั่งสมบุญกุศลไปพร้อม ๆ กับการทำมาหากิน
เนื่องจากแต่ละคนมีเป้าหมายชีวิตเหมือนกัน คือ
มุ่งตั้งตนให้ได้ในโลกนี้ ละโลกนี้แล้วก็จะไปสู่สุคติ
โลกสวรรค์ในโลกหน้า
ในการทํามาหากิน กัลยาณมิตรย่อมหาเป็น
เก็บเป็น และใช้เป็น ขณะเดียวกันก็แบ่งทรัพย์ที่หา
มาได้ส่วนหนึ่งไว้เป็นงบประมาณสำหรับการสร้าง
เครือข่ายกัลยาณมิตร
เครือข่ายกัลยาณมิตรจะยั่งยืน ก็เพราะมวล
สมาชิกมาประชุมแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตลอดจนมีการ
ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ การประชุม
แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตลอดจนการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ร่วมกันจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะได้รับงบประมาณ
สนับสนุนจากมวลสมาชิก เพราะฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่า
เครือข่ายกัลยาณมิตรจะยั่งยืนและเจริญรุ่งเรือง ก็
เพราะน้ำใจเสียสละของมวลสมาชิกนั่นเอง
การรู้จักสร้างเครือข่ายกัลยาณมิตรดังกล่าวมา
นี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าคนดีมีสัมมาทิฐินั้น ล้วนมีใจ
เปี่ยมล้นด้วยความเมตตากรุณาและความเสียสละ
เป็นนิสัย หรือกล่าวสั้น ๆ ว่า “ไม่เคยแล้งน้ำใจ”
າ
ใครบ้างที่ต้องได้รับการปลูกฝังสัมมาทิฐิ
ทุกคนในหมู่บ้าน ในชุมชน และในสังคมทุก
ระดับ ต้องได้รับการปลูกฝังสัมมาทิฐิ โดยไม่มีการ
ยกเว้น แต่เพื่อให้การปลูกฝังเกิดประสิทธิผลอย่าง
แท้จริง การปลูกฝังอบรมสัมมาทิฐิจำเป็นต้องจัด
ทำให้เหมาะสมกับวัยของแต่ละคน