ข้อความต้นฉบับในหน้า
4620
ครั้งประวัติศาสตร์ของศรีลังกา ณ วัดบุปผาราม
เมืองแคนดี พระเจ้าเกียรติศิริราชสิงหะได้เสด็จมา
ร่วมอนุโมทนาด้วยพระองค์เอง พระอุบาลีซึ่งเป็น
พระอุปัชฌาย์ได้ให้การอุปสมบทแก่คณะสามเณร
ศรีลังกา 5 รูป ซึ่งมีสามเณรสรณังกรเป็นหัวหน้า
(อายุ ๕๔ ปี) เมื่อเสร็จสิ้นการอุปสมบท มหาชนก็
พากันไชโยโห่ร้อง แซ่ซ้องสาธุการมิขาดสาย มีการ
ประโคมวงดุริยางค์ และยิงปืนใหญ่ขึ้นเป็นสัญญาณ
แห่งมหาปีติว่า “บัดนี้แผ่นดินลังกาที่ร้างราพุทธบุตร
มาช้านานได้รับการฟื้นฟูแล้วและต้องกลับมายิ่งใหญ่
กว่าเดิมแน่นอน” ในสมัยนั้น ท่านพระอุบาลีได้บวช
กุลบุตรเป็นจำนวนมาก ทำให้พุทธบุตรในศรีลังกา
สืบทอดต่อมาไม่ขาดสาย แผ่นดินศรีลังกาหวนกลับ
มาเจริญรุ่งเรืองด้วยผ้ากาสาวพัสตร์อีกครั้งหนึ่ง
ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย.... ยุคนี้ คือยุคทอง
ของเราที่จะทำให้ผ้ากาสาวพัสตร์โบกสะบัดไปทั่วทุก
มุมโลก เราจะต้องเร่งฟื้นฟูจำนวนศาสนทายาทที่
นับวันมีแต่น้อยลงให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ด้วยการ
บวชกุลบุตรดังที่บรรพชนต้นแบบได้ทุ่มชีวิตทำสำเร็จ
มาแล้ว การบวชพระจะไม่จำกัดอยู่เพียงประเทศไทย
หรือบางประเทศเท่านั้น แต่จะต้องมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก
ในยุคแห่งการสร้างบารมีของพวกเรานี้ เราจะร่วมกัน
สถาปนาพุทธบุตร ๑,000,000 รูปให้บังเกิดขึ้นใน
ประเทศไทยให้ได้ โดยเริ่มต้นที่ รูปทั่วไทย
เป็นพันธกิจที่ต้องเร่งเดินหน้า เพื่อจุดประทีป
GY,000
พระศาสนาให้โชนนิรันดร์ต่อไป ดังที่พระเดช
พระคุณหลวงพ่อได้ให้โอวาทไว้ว่า “เราควรจะมองให้
ไกลขึ้นไปอีกว่า ทำอย่างไรพระศาสนาจะเจริญไป
จนสุดรอยต่อของพุทธันดรนี้กับพุทธันดรหน้า” และ
โปรดรับทราบเอาไว้เถิดว่า พวกเราคือลูกพระธัมฯ
ผู้มากอบกู้พระพุทธศาสนาผู้นำพาโลกนี้ให้สว่างไสว
ผู้จรรโลงพุทธศาสน์ให้กว้างไกล ให้ผ้ากาสาวพัสตร์
ปลิวไสวในใจมหาชน...