ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๐๖
เรื่อง : โค้ก อลงกรณ์ (www.banyaibook.com)
เหลาใจ
วันหนึ่งเมื่อหลวงพ่อเปิดประตูห้องปฏิบัติธรรมออกมาแล้วเห็นผมนั่งรอท่านอยู่หน้าห้อง ท่านได้
บอกกับผมว่า ช่วงที่รอท่านก็ให้ผมหัดเหลาใจไปด้วย
ความเข้าใจของผมในตอนนั้นการเหลาใจก็คือการนั่งหลับตาปฏิบัติธรรมเหมือนที่เคยทำเป็น
ประจำทุกครั้ง ผมจึงรับปากกับท่านไปว่า “ครับผม”
คำว่าเหล่าใจ ผมคุ้นกับคำ ๆ นี้ เพราะได้ยินหลวงพ่อพูดกับหมู่คณะที่ปฏิบัติธรรมอยู่
บ่อย ๆ จนรู้สึกว่าเป็นคำที่เข้าใจง่าย มีความหมายชัดเจนในตัว แต่เพื่อความมั่นใจว่าที่เราเข้าใจนั้น
ถูกต้องจริง ๆ หรือเปล่า จึงทำให้คิดอยากกราบเรียนถามจากหลวงพ่อ
ๆ
แต่พอจะถามจากท่านโดยตรงแบบซื่อ ๆ ก็เกรงจะถูกเข้าใจว่า อะไรกัน อยู่ใกล้หลวงพ่อ
ได้ยินได้ฟังเป็นประจำ ทำไมยังไม่รู้เรื่องเลยหรือ ผมจึงเลี่ยงโดยหาคำตอบจากทางอื่นเสียก่อน
ผมถามจากหลวงพี่หลาย ๆ รูป ที่ปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อเป็นประจำ ซึ่งท่านก็ได้เมตตา
ให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ แต่เป็นเพราะอาจเข้าใจว่าผมคงต้องการคำตอบสำหรับผู้ที่ปฏิบัติธรรม
ในขั้นสูงระดับขั้นอุดมศึกษาเช่นเดียวกับท่านก็เป็นได้ คำตอบที่ได้รับจึงมีความลุ่มลึกเป็นพิเศษ
ด้วยความที่อยากได้คำจำกัดความเพื่อเป็นแนวทางในการอธิบายให้ผู้เริ่มต้นปฏิบัติธรรม
เข้าใจได้ง่าย ๆ ทำให้ผมกลับมาเลือกวิธีที่จะถามจากหลวงพ่อโดยตรง และเพื่อป้องกันความเข้าใจ
ว่าผมนี่ไม่เอาถ่าน จึงได้กราบเรียนเพิ่มเติมไปว่า ผมขอคำตอบแบบที่หลวงพ่อตอบให้เด็กอนุบาล
อย่างผมฟัง
แล้วนักเรียนอนุบาลอย่างผมก็ได้รับคำตอบว่า การเหลาใจก็เหมือนกับการเหลาดินสอ ที่เรา
เหลาให้ปลายดินสอแหลม ๆ เพื่อที่เวลาปฏิบัติธรรมจะได้เข้ากลางได้คล่อง ๆ
ฟังแล้วทำให้ผมนึกย้อนถึงที่ได้ยินได้ฟังหลวงพ่อสอนธรรมะที่ผ่านมา ไม่ว่าจะสอนผ่านทาง
โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันฯ ทางช่อง DMC หรือสอนในวันอาทิตย์ บ่อยครั้งที่หลวงพ่อถามว่าใคร
นึกองค์พระ นึกดวงได้บ้าง นึกให้ย่อได้ ขยายได้ นึกให้ใส ใสเป็นแก้ว ใสเป็นเพชรได้
ochrym