ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดให้ทิศ 5
ของแต่ละคนทำหน้าที่รับผิดชอบในการ
ปลูกฝังอบรมสัมมาทิฐิ ให้เข้าไปอยู่ใน
ใจของคนเรา โดยทรงกำหนดเป็นอริยวินัย
ให้ปฏิบัติตามหน้าที่ที่พระพุทธองค์ทรง
กำหนดไว้ในแต่ละทิศอย่างเคร่งครัด
บ้าน
โรงเรียน
เพื่อน
HATSE
องค์กร
แบบแผนหรือกระบวนการปลูกฝัง
อบรมสัมมาทิฐิควรทำอย่างไร
แบบแผนหรือกระบวนการปลูกฝังอบรม
สัมมาทิฐิ ควรที่จะดำเนินการให้สอดคล้องกับวัย
สติปัญญา ความสามารถ ความสนใจ และความ
สะดวกของผู้เข้ารับการอบรม จึงควรแบ่งออกเป็น
๔ ลักษณะ คือ
Q).
การปลูกฝังให้เกิดเป็นลักษณะนิสัย การ
ปลูกฝังวิธีนี้เหมาะกับเด็กทารกทั่วไป ขณะที่ยังไม่เข้า
โรงเรียน สิ่งที่นำมาปลูกฝัง คือ ศีลและคุณธรรม
ความดีต่าง ๆ เพื่อสร้างลักษณะนิสัยรักบุญกลัวบาป
รักความดี เกลียดความชั่ว ตลอดจนวัฒนธรรม
ชาวพุทธเท่าที่เด็กจะสามารถทำได้
๒. การปลูกฝังลักษณะนิสัยควบคู่ไปกับการ
ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันการปลูกฝังวิธีนี้เหมาะกับเด็ก
ระดับอนุบาลและประถมต้น เนื้อหาสาระของธรรมะ
ที่นำมาปลูกฝังฝึกฝนอบรม ควรเป็นเนื้อหาธรรมะ
จากสัมมาทิฐิ ๑๐ ส่วนเด็กระดับประถมปลายก็ยัง
คงเน้นการปลูกฝังลักษณะนิสัยควบคู่กับการปฏิบัติ
แต่เนื้อหาสาระของธรรมะที่นำมาปลูกฝังมีมากขึ้น
การปลูกฝังธรรมะภาคปฏิบัติควบคู่กับ
ภาคทฤษฎีการปลูกฝังวิธีนี้เหมาะกับเยาวชนในระดับ
๓.
มัธยมศึกษาและอุดมศึกษา การปลูกฝังธรรมะภาค
ปฏิบัติ มีความหมาย ๒ ประการ คือ
การนำธรรมะภาคทฤษฎีที่เรียนในชั้นเรียน
มาปฏิบัติจริงในขณะที่อยู่ในโรงเรียนหรือสถาบัน
การศึกษาแต่ละวัน ๆ ประการหนึ่ง กับการเจริญ
สมาธิภาวนาอีกประการหนึ่ง
อนึ่ง การปลูกฝังธรรมะภาคปฏิบัติระดับนี้
ยังมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่การปลูกฝังลักษณะนิสัย
กิจกรรมต่าง ๆ ควรมีลักษณะสืบเนื่องสอดคล้อง
กับการปลูกฝังในข้อ ๒ ที่ผ่านมา
ต
๔. การถ่ายทอดความดีซึ่งกันและกัน การ
ปลูกฝังวิธีนี้เหมาะกับผู้ใหญ่โดยทั่วไป ซึ่งเข้าสู่อาชีพ
การงานแล้ว กระบวนการปฏิรูปมนุษย์ที่กล่าวมา
ตั้งแต่ต้นก็จัดอยู่ในการปลูกฝังวิธีนี้ด้วย
ผู้ให้การปลูกฝังอบรมสัมมาทิฐิ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดให้ทิศ 5
ของแต่ละคนทำหน้าที่รับผิดชอบในการปลูกฝัง
อบรมสัมมาทิฐิให้เข้าไปอยู่ในใจของคนเรา โดย
ทรงกำหนดเป็นอริยวินัยให้ปฏิบัติตามหน้าที่
ที่พระพุทธองค์ทรงกำหนดไว้ในแต่ละทิศอย่าง
เคร่งครัด