ข้อความต้นฉบับในหน้า
การเห็นสมดุลของผู้มีจิตเสื่อมไล่สัน อาจแบ่งออกได้เป็น ๓ ระดับ คือ
๑. เห็นด้วยตา เรียกว่าพบเห็น คือเห็นถึงรูปร่าง ลักษณะทรียามรายอ่อนล้างามและสัมผัสของท่าน
๒. เห็นด้วยใจ เรียกว่าคิดเห็น คือ outside จะเห็นตัวท่านซึ่งเป็นสมณบุคคลแล้วยังพิจารณาตรงด้วยใจ จนสามารถคาดคะเนได้คุณธรรมภายใน ที่ทำให้ท่านสงบเสงี่ยม แต่ล่างงานอย่างน่าอัศจรรย์ หรือเรียกว่ามองถึงสมณธรรมของท่าน
๓. เห็นด้วยญาณ เรียกว่า รู้เห็น คือไม่ใช่เป็นเพียงการคิดคาดคะเนถึงคุณธรรมของท่านเท่านั้น แต่เห็นด้วยญาณทันสา เห็นด้วยปัญญาท่านะ เห็นด้วยปัญญาทะสะแนงทะลุเข้าไปในใจอื่นได้
กิจที่ควรทำเพื่อให้เกิดประโยชน์จากการเห็นสมณะ
ในการเห็นสมณะนั้น ถ้าหากเห็นเพียงชั่วขณะ เช่น เห็นท่านเดินผ่านไป หรือเราเผลอเดินไปเห็นท่านแล้วผ่านเลยไป อย่างนั้นได้ประโยชน์ในเต็มที่ การที่จะทำให้ได้ประโยชน์เต็มที่จากการเห็นสมณะ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นสมณะผู้ผ่านการฝึกฝนอบรมตนเองมาอย่างดีแล้ว พึงจะทำดังนี้
๑. ต้องเข้าไปหา หมายถึง หมู่นำเข้าใกล้ ไปหาสู่ท่าน เห็นคุณค่าในการเห็นสมณะ แม้งานจะยุ่งเพียงไร ก็พยายามหาเวลานำเข้า ไปหาท่านเสมอ เพื่อรับการถ่ายทอดคุณธรรม
๒. ต้องเข้าไปบำรุง หมายถึง เข้าไปช่วยทำกิจของท่าน เช่น บำกวาดเช็ดถูฤทธิ์ จัดหาปัจจัย ไปถวายท่าน ท่านจะได้ไม่มีภาระมาก และจะได้เวลา มีโอกาสได้รับนอกจากสมาธิ
๓. ตามฟัง หมายถึง ตั้งใจฟังคำเทศน์คำสอนของท่านด้วยใจจดจ่อ
๔. ตามระลึกถึงท่าน หมายถึง เมื่อพบท่าน ได้ฟังคำสอนของท่านแล้ว ก็ ตามระลึกถึงทั้งกิริยามารยาทของท่าน และนำคำสอนโอวาทของท่านมาไตร่ตรอง พิจารณาอยู่เสมอ
๕. ตา ตามดูตามเห็น หมายถึง ดูท่านด้วยตามเนื้อของเราด้วยความเลื่อมใสรักอย่างหนึ่ง และตามดูท่านด้วยความคิดและปัญญาทางธรรม ให้เห็นตัวสมณธรรมของท่านอย่างหนึ่ง เห็นท่านทำอย่างไร เราก็ทำอย่างนั้น ไม่ได้รั้น
เมษายน ๒๕๕๘ อยู่ในบุญ