ข้อความต้นฉบับในหน้า
Answer หลวงพ่อตอบปัญหา
Question พระภาวนาวิริยคุณ
the
กันอย่างไร ต้องแยก ๒ คำนี้ให้ออก ถ้าแยกไม่ออก
ก็ประหยัดไม่เป็น
ยกตัวอย่าง ลูกเอ๊ย เสื้อผ้าเขามีไว้สำหรับ
นุ่งห่ม เพื่อกันแดด กันลม กันฝน กันร้อน กันหนาว
ก้นเหลือบ ลิ้น ไร มาไต่ตอม และที่สำคัญ
กันอายนะลูก
ยุง
ถ้าลูกยังใช้เสื้อใช้ผ้า ใช้เครื่องนุ่งห่ม อยู่ใน
ลักษณะเพื่อป้องกันแดด กันลม กันฝน กันอาย
อย่างที่ว่ามานี้ ก็เป็นเรื่องของความประหยัด
แต่เมื่อไหร่ ลูกจะใส่เสื้อใส่ผ้าเพื่อ ความเด่น
ความดัง ตามแฟชั่น เดินผ่านไปถึงไหน ใครๆ ก็
ต้องเหลียวหน้ากลับมาดู อย่างนี้ไม่ประหยัดแล้ว
แต่จะกลายเป็นการฟุ่มเฟือยไป
การใช้เสื้อผ้าก็ต้องสอนให้ลูกรู้จักแยกให้
ออกได้อย่างนี้
ในบางกรณี ถ้าลูกอยากหล่อ อยากสวย
อยากเด่น กับเขาบ้าง เป็นบางครั้งบางคราวก็ได้
เหมือนกัน แต่ว่าก็ต้องออกแรงทำงานเสียก่อน
โดยอาจจะให้ทำงานในบ้าน หรือไปทำงานนอก
บ้านก็ตาม
ฝึกให้ลูกรู้จักเหนื่อยเสียบ้าง ไม่ใช่ว่าคอย
แบมือขอแม่เพียงอย่างเดียว เมื่อต้องเหนื่อยเสีย
ก่อนแล้วจึงจะได้ของที่ต้องการ อย่างนี้ความคิด
ที่จะฟุ้งเฟ้อก็ลดลง
ยิ่งกว่านั้น ยังต้องสอนให้ลูกของเรารู้จัก
หยอดเงินใส่กระปุกออมสิน โดยเก็บเงินส่วนที่
เหลือจากค่าขนมบ้าง เหลือจากตรงนั้น ตรงนี้บ้าง
เอามาใส่กระปุกไว้ หรือว่าเอาไปทำบุญ
ก็จะกลายเป็นทั้งออมเพื่อเตรียมไว้สำหรับ
อนาคตชาตินี้ และออมไว้สำหรับอนาคตชาติหน้า
ด้วยการเปลี่ยนเป็นบุญ
ถ้าทำอย่างนี้กันทั้งครอบครัวตั้งแต่เล็กๆ
รับรองนิสัยประหยัดและอดออมของคนทั้งชาติ
ไทยจะบังเกิดขึ้นมาได้ในไม่ช้านี้
อยู่ ๒ ๓๖