การทำจีวรและการทอดกฐินในพระพุทธศาสนา วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2550 หน้า 37
หน้าที่ 37 / 88

สรุปเนื้อหา

การทำจีวรของพระสงฆ์เกิดขึ้นปีละครั้งเรียกว่า จีวรกาล และในโอกาสพิเศษชาวบ้านสามารถถวายผ้าที่เรียกว่า ผ้ากฐิน การทอดกฐินมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานย้อนกลับไปถึงสมัยพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะเมื่อพระภิกษุชาวเมืองปาฐาไม่ได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์เพราะเข้าจำพรรษา ผ้ากฐินจึงมีความหมายสำคัญในพระพุทธศาสนาและส่งเสริมคุณค่าแห่งการเป็นชุมชน.

หัวข้อประเด็น

-การทำจีวร
-ผ้ากฐิน
-ประวัติการทอดกฐิน
-ความสำคัญในพระพุทธศาสนา
-บทบาทของพระสงฆ์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

0 ส่วนการทำจีวรใช้เองของพระนั้น ทำกันปีละ ครั้ง คือ ตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ถึงกลางเดือน ๑๒ รวมเวลา ๒๙ วัน เรียกว่า จีวรกาล ต่อมา ๑๑ ทรงอนุญาตให้พระสงฆ์รับผ้าที่ชาวบ้านถวายเป็น กรณีพิเศษในโอกาสนั้นได้ ผ้าที่ถวายในเขตจีวรกาล จึงเรียกว่า ผ้ากฐิน แม้ปัจจุบันจะเป็นผ้าสำเร็จรูป ไม่ต้องใช้ไม้สะดึงเหมือนสมัยก่อน ก็ยังนิยมเรียกว่า ผ้ากฐินกันอยู่ เพื่อรักษาเรื่องราวดั้งเดิมเอาไว้ “ทอด” กับ “ถวาย” ต่างกันอย่างไร คำว่า “ทอด” ที่ใช้แทนคำว่า “ถวาย” นั้น เป็นกิริยาที่มอบผ้าชนิดนี้ให้พระสงฆ์ คือผ้าอื่น ๆ นิยมน้อมส่งให้กับมือพระโดยประเคนถวายเลย ส่วนผ้ากฐินนี้ ไม่นิยมถวายกับมือพระ เพราะถือว่า เป็นสังฆทาน ไม่เจาะจงผู้รับ เพียงแต่น้อมเข้าไป วางทอดไว้ต่อหน้าพระสงฆ์ก็พอ แล้วทอดธุระให้ พระสงฆ์จัดการตามพระวินัยกันเอง ด้วยเหตุนี้ การถวายผ้ากฐินจึงใช้คำว่า “ทอดกฐิน” มาแต่สมัย พุทธกาล ประวัติการทอดกฐิน ในสมัยหนึ่ง เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับอยู่ที่วัดพระเชตวัน เมืองสาวัตถี ตอนนั้นมี พระพุทธานุญาตให้พระภิกษุอยู่จำพรรษากันแล้ว ต่อมามีพระภิกษุชาวเมืองปาฐา ๓๐ รูป เดินทางไกล มาเพื่อเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ แต่พอมาถึงเมืองสาเกต ซึ่งอยู่ห่างเมืองสาวัตถี 5 โยชน์ ก็พอดีถึงวันเข้าพรรษา เสียก่อน จึงจําเป็นต้องเข้าจำพรรษา ณ เมืองสาเกต พอออกพรรษาจึงรีบเดินทางไปเข้าเฝ้าพระศาสดา แต่เพราะฤดูฝนยังไม่สิ้น การเดินทางจึงลำบากมาก หนทางมีน้ำเจิ่งนอง ทำให้ภิกษุเหล่านั้นเข้าเฝ้า พระพุทธองค์ด้วยจีวรที่เปรอะเปื้อนและขาดชำรุด ในระหว่างเดินทาง พระบรมศาสดาทอดพระเนตร เห็นจึงมีพระบรมพุทธานุญาตให้ภิกษุผู้อยู่จำพรรษา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More