ข้อความต้นฉบับในหน้า
| 0 ขอเชิญรวม
ood
แต่เราก็ยอม เพราะเราไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านี้แล้ว
เราเช่าแผงเล็ก ๆ หน้าทางรถไฟสถานีตลาดพลู
ขายอาหารตามสั่งเลี้ยงครอบครัวกันมาเรื่อยๆ จน
เริ่มจะดีขึ้น ชีวิตก็มาเจอวิบากซ้อนกรรมซัดอีก คือ
ห้องเช่าของเราโดนไฟไหม้ เผาจนไม่เหลือสมบัติอะไร
จึงต้องกลับมาเริ่มต้นจากศูนย์อีกครั้ง
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราต้องล้มลุกคลุกคลาน
ลำบากยากไร้ อดมื้อกินมื้อมาตลอด เสื้อผ้าก็ไม่มี
จะใส่ นานๆ ถึงจะมีคนบริจาคให้ ชีวิตเราไม่สบาย
เหมือนคนอื่นเขา จนเรามาคิดในใจว่า เราอยากสร้าง
พระ เพราะปู่ย่า ตายาย เขาปลูกฝังลูกหลานว่า
ถ้าอยากได้บุญมากๆ ต้องสร้างพระ เพราะเรา
อยากเอาบุญนี้ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นกว่านี้ แต่เราก็ได้
แต่คิดอยู่ในใจว่า เราจะไปสร้างได้ที่ไหน มีคนเขา
แนะนำเราให้ไปดูที่เสาชิงช้า แต่พอเรามาคิดอีกที
หากเราสร้างแล้วเราจะเอาไปไว้วัดไหน ในเมื่อวัด
ทั่วๆ ไปเขาก็มีพระประธานกันหมดแล้ว เราจึงได้
แต่คิดวนเวียนอยู่ในหัวว่าอยากทำบุญนี้มาตั้งแต่ปี
๒๕๓๕ จนกระทั่งปี ๒๕๓๗ มีพี่คนหนึ่งเขามาชวน
เราสร้างพระ เราดีใจสุดๆ เขาบอกเราว่า “หนึ่งหมื่น
บาท" เราตอบตกลงทันที ทั้งๆ ที่ตลอดชีวิตของเรา
ที่ผ่านมาเคยทำบุญสูงสุดแค่ ๕๐๐ บาท แล้วทั้ง
ครอบครัวเราตอนนั้นก็มีเงินเก็บกันแค่หมื่นเดียว
เท่านั้น เราก็ตัดสินใจเอาเงินก้อนนี้มาทำโดยไม่ให้
ใครรู้ เพราะกลัวว่าเขาจะไม่ปลื้มกับเรา เพราะเรา
ไม่มีเงินกัน แต่พอเราสร้างเสร็จ คนชวนก็ถามเราว่า
ทำไมไม่สร้างให้สามีด้วยเราก็บอกว่าเงินเราหมดแล้ว
เขาก็บอกว่า องค์พระเขามีให้ทยอยบุญ คือ มีเท่าไร
ก็ค่อยๆ ทำจนครบ เราก็ตอบตกลงทันที แม้เงิน
จำนวนนี้จะเป็นเงินที่มากที่สุดในชีวิตที่เคยทำบุญมา
แต่เราก็ปลื้มที่สุด ดีใจที่สุด แม้เรายังไม่เคยได้มาวัด
เลย จนกระทั่งปี ๒๕๓๘ ยุคฟองสบู่แตก ตอนนั้น