ข้อความต้นฉบับในหน้า
ตามวิธีการของหนังสือเหล่านี้ลองมาดูกันว่า
ถ้าเราอยากได้บ้านสักหลัง จะต้องทำอย่างไร
ขั้นแรก ต้องทำใจให้สงบปลอดโปร่ง ด้วย
การสวดอ้อนวอน ทำสมาธิ และอื่น ๆ
เป็นการเตรียมจิตใจ
๒
เพื่อ
ขั้นที่ ๒ จินตนาการถึงผลที่จะได้รับ โดย
ทำความรู้สึกเหมือนกับว่าบ้านหลังที่เราต้องการ
เกิดขึ้นแล้วจริงๆ โดยนึกให้เห็นภาพบ้านที่เรา
ต้องการ แล้วใส่รายละเอียดลงไปให้ชัดเจนที่สุด
ว่า เป็นบ้านชั้นเดียวหรือสองชั้น บ้านเดี่ยว หรือ
ทาวน์เฮาส์ ทาสีอะไร ตกแต่งอย่างไร ฯลฯ
ขั้นที่ ๓ รอคอยผลลัพธ์ด้วยใจที่ปล่อยวาง
ช่วงนี้ต้องทำใจให้สงบ ปล่อยวาง และทำสิ่งต่างๆ
ตามแรงบันดาลใจ เพื่อดึงดูดบ้านหลังนี้ให้เกิดขึ้น
กับเราได้จริงๆ
จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่หนังสือก็ขายดิบ
ขายดี เพราะจริงๆ แล้ว มนุษย์ทั่วไปย่อมฝันถึง
ชีวิตที่ดีกว่า และฝันยังเปรียบเสมือนพลังที่ผลักดัน
ชีวิตเราให้ก้าวไป ดังบทเพลงที่ว่า “คนเราอยู่กัน
ได้ก็ด้วยฝัน ทุกชนทุกชั้นต่างก็เป็นกันทั้งนั้น ใคร
จะเติมพลังให้ฝันได้มากกว่ากัน
บันได ๓ ขั้นตอนนี้ ถ้าใช้ความรู้ในทาง
พระพุทธศาสนามาวิเคราะห์ ก็จะพบว่า ฝันนี้มี
โอกาสเป็นจริง เนื่องจาก
ประการแรก การทำสมาธิ และสวดอ้อนวอน
จะทำให้ใจสงบ ปลอดโปร่ง และเป็นทางมาแห่งบุญ
บุญจะหลั่งไหลมา บันดาลให้สิ่งที่ปรารถนาบังเกิด
เป็นจริงได้
ส่วนการจินตนาการถึงผลที่จะได้รับ ก็คือ
การอธิษฐานนั่นเอง แต่เป็นการอธิษฐานด้วยภาพ
ซึ่งชัดเจนกว่าและมีพลังกว่าการอธิษฐานด้วยคำพูด
เพียงอย่างเดียว ตามคำสอนในพระพุทธศาสนา
ถือว่าการอธิษฐานเป็นทางมาแห่งบุญอย่างหนึ่ง
เป็นหนึ่งในบารมี ๑๐ ทัศ ยิ่งอธิษฐานบุญก็ยิ่งเกิด
และจะทำให้ความปรารถนาของเราเป็นจริงเร็วขึ้น
ประการสุดท้าย รอคอยผลลัพธ์ด้วยใจที่
ปล่อยวาง การปล่อยวางทำให้ใจปราศจากความ
วิตกกังวล มีอารมณ์สบาย ใจที่เบิกบานก็จะสามารถ
ดึงดูดสิ่งที่ดีๆ เข้ามาสู่ชีวิตของเราได้
ล
นอกจากนี้ การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ไม่ว่า
จะเชื้อชาติ ศาสนาใดก็ตาม ก็ต้องมีบุญเก่าอยู่แล้ว
เมื่อได้มาทำตาม ขั้นนี้ จนกระทั่งใจใสระดับ
หนึ่งแล้ว สิ่งที่ผู้เขียนเรียกว่า “พลังงานอันทรงอำนาจ”
(จริงๆ แล้วก็คือบุญนั่นเอง) ก็จะส่งผล ทำให้คำ
อธิษฐานปรากฏเป็นจริง ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจ
แต่อย่างใด ถ้าจะมีผู้ประสบความสำเร็จด้วยวิธีการ
เหล่านี้
แต่ไม่ได้หมายความว่า ความสำเร็จจะเกิด
ขึ้นกับทุกคน หรือฝันจะเป็นจริงทุกเรื่อง เพราะถ้า
ไม่มีบุญอยู่เบื้องหลัง จะขึ้นบันไดขั้น หรือต่อให้
ขึ้นลิฟต์ก็ตาม ก็คงไม่สามารถปั้นฝันให้เป็นจริงได้
เช่น คนที่มีทานบารมีไม่มากพอ จะอธิษฐานอย่างไร
ทรัพย์สมบัติก็คงไม่เกิดขึ้น หรือคนที่มีปัญญาบารมี
ไม่มากพอ จะอธิษฐานให้เป็นคนฉลาดหลักแหลมก็
คงจะไม่สําเร็จ เป็นต้น
ดังนั้น เราจึงควรหมั่นสั่งสมบุญ และนำ
ความสำเร็จที่ล้วนเกิดมาจากบุญ ไม่ว่าจะเป็น
ทรัพย์สิน เงิน ทอง ลาภ ยศ หน้าที่การงาน ฯลฯ
ไปใช้สั่งสมบุญให้ยิ่งๆ ขึ้น แล้วเราจะมีสิทธิโดย
ชอบธรรมในการเดินทางบนถนนสายที่ชื่อ “ความ
สำเร็จ” อย่างมีความสุขตลอดไป โดยมีอักษรจารึก
ข้างกระเป๋าเดินทางว่า “มนุษย์มีหน้าที่ต่อสู้ แต่บุญ
คือเบื้องหลังของความสำเร็จ” ต