ข้อความต้นฉบับในหน้า
ยี่สิบกว่าปีมาแล้วในอำเภอปากช่อง จังหวัดนคร
ราชสีมา มีบ้านหลังหนึ่งครึ่งไม้ครึ่งอิฐ ตั้งไม่ไกล
จากถนนเท่าใดนัก หลังบ้านเป็นโรงฆ่าหมูขนาด
ย่อม ได้รับอนุญาตจากทางการ ชาวบ้านแถบนั้น
จะได้ยินเสียงหมูหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดวันละ
10-20 ตัว ทุกวัน
เจ้าของกิจการเป็นเถ้าแก่ที่ทำอาชีพตามตระกูล เนื่องจาก
เตี้ยและพี่ชายอีก 4 คนเป็นพ่อค้าหมู เดิมเถ้าแก่เป็นน้อง
เล็กของครอบครัว ไม่ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ แต่เมื่อแต่งงาน
อาชีพแรกคือออกหวย ที่ทำได้ไม่นานก็หมดตัว ได้ค่าแนะ
นำจากพี่สะใภ้ให้ซื้อหมูตามบ้านคนมาฆ่าขาย
เถ้าแก่จึงเริ่มเดินทางหาซื้อหมูเลี้ยงตามบ้านจากปากช่อง
ไปถึงอำเภอต่างๆ มีกุดจิกและสีคิ้ว เป็นต้น ที่ชาวบ้านเลี้ยง
หมูดำ บ้านละ 4-5 ตัว คัดเลือกหมูหนุ่มสาวและเอาหมู ที่
มีมันมาก เพราะชาวบ้านชอบเอาน้ำมันหมูทำอาหาร และ
เลาะส่วนที่เป็นไขมันไปเจียวทำกากหมู จึงต้องเลือกหมูอ้วนๆ
หนังไม่หนา มิฉะนั้น มีโอกาสขาดทุนได้ ต่อมาคนชอบกิน
เนื้อแดงกันมากขึ้น เถ้าแก่จึงเลือกหมูที่มีขนาดกำลังดี ไม่
อ้วนไม่ผอมเกินไป สายตาดูปราดเดียว กะสัดส่วนไขมัน
เนื้อ และหนังของหมูตัวนั้นได้อย่างแม่นยำ เลือกหมูแล้ว
วางเงินมัดจำไว้ จนถึงวันเอาหมูไปเก็บไว้ในโรงฆ่าสัตว์เล็กๆ
จ้างคนฆ่า การฆ่ามีหลายวิธีตั้งแต่วิธีจับมัด ใช้ค้อน ท่อน
เหล็กหรือท่อนไม้ทุบน็อกมันให้สลบทีเดียว ใช้มีดแหลมเสียบ
แทงตรงคอ หรือจี้ด้วยไฟฟ้าให้สลบก่อน มันจะได้ไม่ทุรน
ทุราย พอมันตายแล้วชำแหละเนื้อหมูเอาไปวางขายตามเชียง
หมูในตลาดปากช่อง และที่อื่นๆ
เงินก้อนแรกที่ได้มาจากการขายชีวิตสัตว์เลี้ยงตนเอง
และครอบครัว ทำให้เถ้าแก่มองเห็นว่าได้เงินง่ายดี และคิด
ว่าหมูเป็นแหล่งอาหารของมวลมนุษย์ เถ้าแก่คิดออกอยู่อย่าง
เดียวเท่านั้น เพราะไม่เคยได้ยินใครบอกว่า อาชีพนี้เป็นอาชีพ
ต้องห้าม 1 ใน 5 อย่างคือ ค้าสัตว์เพื่อนำไปฆ่า ค้าอาวุธ
ค้ามนุษย์ ค้ายาพิษ และค้าน้ำเมา รวมทั้งยาเสพติดทุกชนิด
อาชีพค้าหมูทำรายได้ให้เถ้าแก่ แต่ยังไม่มีโอกาสรวย
46
case study
47
กฏแห่งกรรม