ข้อความต้นฉบับในหน้า
เราไปข้ามภพข้ามชาติ” ท่านให้ตีกลองร้องป่าวไป
ทั่วเมืองว่า “ใครอยากได้ทรัพย์สมบัติอะไร ก็ให้มา
ขนไปได้เลย” จากนั้นท่านก็เริ่มบริจาคมหาทานบารมี
ใช้เวลาแจกจ่ายทรัพย์อยู่ ๗ วัน จึงได้ออกจาก
ปราสาทไปบวชเป็นฤาษีอยู่ตามลำพัง เนื่องจาก
ท่านมีความตั้งใจมาก เพียง 5 วันเท่านั้น ก็สามารถ
ทำอภิญญาสมาบัติให้บังเกิดขึ้น สามารถเหาะเหิน
เดินอากาศได้ เป็นมหาฤาษีที่มีตบะกล้ามาก ท่าน
หมั่นเจริญเมตตาไปยังสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่า เสวย
สุขอยู่ในฌานสมาบัติเป็นเวลายาวนาน
เมื่อท่านออกจากป่าและพบเห็นมหาชน
คนบางคนเอาสมบัติมากมาย
เดินทางไปกับหมู่โจร
เขาจำเป็นที่จะต้องละทิ้งพวกโจรไป
เพราะกลัวสูญเสียทรัพย์
และเลือกเส้นทางที่เกษมปลอดภัยฉันใด
กายอันเน่าเปื่อยนี้ก็ฉันนั้น
เปรียบเสมือนโจรปล้นทรัพย์
ถ้าเรายึดมั่นถือมั่นในกายนี้
ทรัพย์คืออริยมรรค
และกุศลธรรมของเรา
ก็จักสูญไป
ทั้งหลายกำลังสร้างถนนหนทาง เพื่อใช้เป็นที่เสด็จ
ไปของพระทีปังกรพุทธเจ้า ท่านรู้สึกปีติยินดียิ่ง
และอยากได้บุญใหญ่ในครั้งนั้นด้วย จึงขอร่วมทำ
ถนนด้วยเรี่ยวแรงของตนเอง ทั้งที่หากใช้ฤทธิ์ที่มีอยู่
จะเนรมิตถนนให้ดีเลิศแค่ไหนก็ได้ ท่านกลับนอน
ทอดร่างเป็นสะพานให้พระพุทธเจ้าได้เสด็จข้ามไป
ซึ่งในวันนั้นสุเมธดาบสได้รับพุทธพยากรณ์ว่า อีก ๔
อสงไขยแสนมหากัป จะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระนาม
ว่า สมณโคดม เมื่อได้ฟังดังนั้น ท่านมีความปีติ
เบิกบานประหนึ่งว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในวัน
รุ่งขึ้นทีเดียว