ความแตกต่างระหว่างกรรมดีและกรรมชั่วในอาชีพ วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน มกราคม พ.ศ.2555 หน้า 64
หน้าที่ 64 / 112

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจความแตกต่างระหว่างกรรมดีและกรรมชั่วตามประเภทของอาชีพที่ผู้คนประกอบ โดยชี้ให้เห็นถึงผลวิบากของกรรมชั่วที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและใจ และเส้นทางแห่งความเจริญรุ่งเรืองของผู้ทำกรรมดี รวมถึงความจำเป็นในการพิจารณาเส้นทางการดำเนินชีวิต การสร้างอาชีพที่ดี จึงไม่เพียงแค่ดูที่จำนวนเงินหรือผลประโยชน์ แต่ต้องคำนึงถึงผลของกรรมที่จะติดตามไปกับเราในชาติหน้า.

หัวข้อประเด็น

-กรรมดีและกรรมชั่ว
-สัมมาอาชีพและมิจฉาอาชีพ
-ผลของกรรมต่อชีวิต
-ความสำคัญของเส้นทางอาชีพ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๖๒ แตกต่างกัน “ความรุ่งเรือง” กับ “ความตกต่ำ” ในชีวิตที่ได้รับในชาตินี้และในชาติหน้า ก็ คนเรานั้นเมื่อทำอาชีพชั่ว ก็เท่ากับทำกรรมชั่วไปด้วย ธาตุในตัวก็สกปรกเพิ่มขึ้น เซลล์ ในตัวก็ตายเพิ่มขึ้น สุขภาพกายก็โทรม สุขภาพใจก็เสื่อม ทั้งกายและใจก็มีแต่ทุกข์สถาน เดียว นิสัยเลวก็เพิ่มขึ้น นิสัยดีก็ลดลง หรืออาจหมดไป แบกบาปเพิ่มขึ้น บุญลดลง ไม่มี มิตรดี มีศัตรูเพิ่มขึ้น ชีวิตในชาตินี้ตกต่ำยังไม่พอ ชีวิตในชาติต่อไปยังจะตกต่ำยิ่งกว่า อาจ ตกต่ำถึงขั้นตกนรก พ้นจากนรกก็ไปเกิดเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน นี่คือ “เส้นทาง ชั่ว” ที่ “ผู้ประกอบอาชีพที่เป็นกรรมชั่ว” จะต้องได้รับ “ผลวิบากของกรรมชั่ว” อย่างไม่มี ทางหลีกเลียงเลย ในทางตรงกันข้าม “ผู้ประกอบอาชีพที่เป็นกรรมดี” ย่อมเดินอยู่บน “เส้นทางแห่ง ความดี” ย่อมจะได้รับ “ผลวิบากของกรรมดี” อย่างแน่นอน เพราะเมื่อเรามองว่า ทำงาน เพื่อหาเงินมาเติมธาตุ ๔ ให้ตัวเรา ความสำรวมในอาชีพก็จะเกิดขึ้น ความรู้ประมาณใน การหา การเก็บ การใช้ให้พอดีกับร่างกายก็จะตามมา ความทุกข์ย่อมลดลง จิตใจย่อม บริสุทธิ์สะอาด อัตราการตายของเซลล์ย่อมน้อยลง มีสุขภาพกายดี มีสุขภาพจิตเยี่ยม ได้ นิสัยดี ๆ ได้มิตรเพิ่มขึ้น ได้บุญเพิ่มขึ้น ได้ความเจริญรุ่งเรืองในชาตินี้ ซึ่งจะต่อเนื่องไป ถึงชาติหน้าอีกด้วย ดังนั้น การพิจารณาความเจริญก้าวหน้าในชีวิตของคนเรา จึงดูแต่จำนวนเงินหรือ ผลประโยชน์ที่ได้รับมาไม่ได้จะต้องคำนึงถึงเส้นทางของความดีกับเส้นทางของความชั่วด้วย เพราะผลบั้นปลายที่ได้รับจากกรรมชั่วนั้นร้ายแรงเกินกว่าที่เราคาดคิดมากมายนัก เมื่อ ถึงคราวละโลก เงินทองนั้นไม่ว่าหามาได้มากเท่าใด ก็ต้องทิ้งไว้เบื้องหลังทั้งหมด มีแต่ ความเจ็บป่วย บาปกรรมเท่านั้นที่ติดตัวเราไปตลอด ทำให้ชีวิตต้องพบกับความยากจน ความโง่เขลาตามติดไปอีกหลายภพหลายชาติ และยังต้องไปตกนรกหมกไหม้จนไม่ได้ผุด ได้เกิดกลับมาเป็นมนุษย์อีกด้วย ๔.๓ เส้นทางของสัมมาอาชีพกับมิจฉาอาชีพมีความแตกต่างกันอย่างไร เมื่อเราแยกแยะความแตกต่างระหว่างกรรมดีกับกรรมชั่วจากการประกอบอาชีพได้แล้ว เราก็จะพบว่า ด้วยหลัก “กฎแห่งกรรม” นี้เอง ช่วยให้สามารถแบ่งอาชีพของคนเราได้เป็น ๒ ประเภท คือ สัมมาอาชีพ คือ ผู้เลี้ยงชีพด้วยการสร้างกรรมดี ๒ มิจฉาอาชีพ คือ ผู้เลี้ยงชีพด้วยการสร้างกรรมชั่ว คนทั้งสองประเภทนี้ ถ้าดูอย่างผิวเผินอาจเห็นว่าเดินอยู่บนเส้นทางคนละเส้น ต่าง คนต่างอยู่ ต่างคนต่างเดิน ไม่มีวันที่จะมาบรรจบร่วมทางกันได้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More