ข้อความต้นฉบับในหน้า
เลย เพราะเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน เป็นลูกชาย
คนโตที่มีน้องอีกหลายคน ต้องช่วยโยมพ่อโยมแม่
ทำงานมาตั้งแต่ยังเด็ก และเมื่อเรียนถึงแค่ ม.๒ ก็
จำเป็นต้องเสียสละลาออกจากโรงเรียนมาช่วยโยมพ่อ
โยมแม่ ซึ่งมีอาชีพปลูกผักขาย อาตมาช่วยทางบ้าน
ทำงานอย่างเต็มกำลัง จนวันเวลาล่วงเลยไปจนใกล้
๒๓ ปี อาตมายังคงปลูกผักขายที่ตลาดเหมือนเดิม
แต่ในระหว่างนั้นอาตมาเริ่มมองเห็นบางอย่างเปลี่ยน
ไป คือ เห็นผู้ชายแมน ๆ รุ่นน้องที่อายุครบบวช
เขาทยอยบวชตามวัดใกล้บ้าน อาตมาจึงเริ่มคิดอยาก
จะบวชบ้าง เมื่อไปปรึกษาโยมแม่ก็ปรากฏว่า วันนั้น
สองเราใจตรงกัน ท่านดีใจมากบอกว่า ขอแค่ลูกชาย
แม่ได้บวช แม้ต้องกู้หนี้ยืมสินเท่าไรแม่ก็ยอม และ
อีกไม่กี่วันต่อมาโชคดีก็เป็นของอาตมา เพราะโยมพ่อ
ท่านไปตัดผมที่ร้านใกล้บ้าน ได้เจอหนังสือชวนบวช
พอดี เพราะเจ้าของร้านเคยมาบวชในโครงการของวัด
เขาบอกว่าเป็นโครงการที่ดีมาก ๆ มีลูกมีหลานให้
เมื่ออาตมาได้อ่านหนังสือนั้น
พามาบวชเยอะ ๆ
แล้วก็ตกลงบวชทันที เพราะไม่ต้องเป็นหนี้ในการ
จัดงานบวชแม้สักบาทเดียว
“ช่วงที่เข้าอบรมใหม่ๆ อาตมารู้สึกอึดอัดนิด
หน่อย เพราะต้องปรับตัวหลายอย่าง แต่มาคิดดูอีกที
ก็คิดได้ว่า หลายอย่างที่ฝืน ทุกอย่างที่ฝึก สุดท้าย
ประโยชน์ก็เกิดกับตัวเรา จึงปรับใจใหม่ เมื่อปรับตัว
ได้ก็เริ่มมีความสุขมากขึ้น เมื่อใจสบาย ผลการ
ปฏิบัติธรรมก็พลอยก้าวหน้าไปด้วย จากที่เคยนั่งได้
แค่ ๕-๑๐ นาที แล้วต้องลุก ก็เริ่มนั่งได้นานขึ้น
และมีความสุขกับการนั่งสมาธิ จนวันหนึ่งอา
งอาตมา
นั่งโดยเริ่มจากการนึกทบทวนบุญของตัวเองแล้วก็
รู้สึกว่ามีแสงสว่างเหมือนแสงจันทร์ปรากฏขึ้นที่กลาง
ท้อง แล้วก็เห็นดวงแก้วใสขนาดเกือบเท่ากำปั้นมี
รัศมีรอบ ๆ ค่อย ๆ ขยายใหญ่ออกไปเรื่อยๆ อาตมา
มีความสุขมาก ๆ สุขจนไม่อยากลุกจากที่
“เมื่ออาตมาได้มาอบรมอยู่ที่วัด หลวงพ่อได้
เมตตามาให้กำลังใจและมานำนั่งสมาธิทำให้อาตมา
นั่งสมาธิได้ดีขึ้น โดยตอนเริ่มนั่งก็นึกทบทวนบุญ
ทุกบุญด้วยความปลื้ม ปลื้มจนสว่างที่กลางท้อง แล้ว
อาตมาก็นึกถึงดวงแก้วพร้อมกับท่อง “สัมมาอะระหัง
สักพักดวงแก้วก็ค่อย ๆ เล็กลง ๆ จนเล็กมาก ๆ
แล้วองค์พระก็ผุดขึ้นมาแทนอาตมาเห็นองค์พระแบบ