วิธีฝึกสมาธิเบื้องต้น วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน ธันวาคม พ.ศ.2554 หน้า 108
หน้าที่ 108 / 124

สรุปเนื้อหา

สมาธิเป็นความสงบและความรู้สึกเป็นสุขที่มนุษย์สามารถสร้างขึ้นเองได้ โดยมีวิธีฝึกที่แนะนำโดยพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ซึ่งเริ่มจากการกราบพระรัตนตรัยและสมาทานศีล 5 หรือ 8 เพื่อเตรียมตัวและจิตใจ ถัดไปให้นั่งในท่าที่เหมาะสม โดยมีการนึกถึงความดีที่ทำและนิมิตเป็นดวงแก้วกลมใส โดยทำไปเรื่อยๆ เพื่อฝึกสมาธิและสร้างความสงบภายในใจ หากมีความยากในการทำสมาธิ ให้ไว้ใจตัวเองและทำความเข้าใจถึงกระบวนการจิต จนกว่าสมาธิจะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง วิธีนี้สามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อให้เกิดความสงบและสุขในจิตใจได้ทุกวัน.

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของสมาธิ
-วิธีการฝึกสมาธิ
-ประโยชน์ของการฝึกสมาธิ
-การเตรียมตัวก่อนฝึกสมาธิ
-การนึกนิมิตในสมาธิ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

วิธีฝึกสมาธิเบื้องต้น สมาธิ คือ ความสงบ สบาย และความ รู้สึกเป็นสุขอย่างยิ่งที่มนุษย์สามารถสร้างขึ้นได้ ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่พระพุทธศาสนากำหนดเอาไว้ เป็นข้อควรปฏิบัติ เพื่อการดำรงชีวิตทุกวันอย่าง เป็นสุข ไม่ประมาท เต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะ และปัญญา อันเป็นเรื่องไม่เหลือวิสัย ทุกคน สามารถปฏิบัติได้ง่ายๆ ดังวิธีปฏิบัติที่พระเดช พระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ได้เมตตาสั่งสอนไว้ดังนี้ ๑. กราบบูชาพระรัตนตรัย เป็นการ เตรียมตัวเตรียมใจให้นุ่มนวลไว้เป็นเบื้องต้น แล้ว สมาทานศีล ๕ หรือ ศีล ๘ เพื่อความมั่นคงใน คุณธรรมของตนเอง ๒. คุกเข่าหรือนั่งพับเพียบสบายๆ ระลึก ถึงความดี ที่ได้กระทำแล้วในวันนี้ ในอดีต และที่ ตั้งใจจะทำต่อไปในอนาคต จนราวกับว่าร่างกาย ภาพแสดงที่ตั้งจิตทั้ง ๗ ฐาน ฐานที่ ๑ ปากช่องจมูก (ชายา b (หญิงข้างซ้าย ฐานที่ ๒ เทลาดา ฐานที่ 6 | 27 ฐานที่ ๔ ของเทคาน ฐาน ๔ ปาก คอ ( หญิงร้างซ้าย 0 โซน ากว ฐานที่ ๒ ศูนย์กลางกายที่ตั้งจิตถาวร ฐานที่ 3 ศูนย์กลางกายระดับตะคือ ๒ นิ้วมือ ทั้งหมดประกอบขึ้นด้วยธาตุแห่งคุณงามความดี เป็นพุทธานุสติว่า “สัมมา อะระหัง” หรือค่อยๆ ล้วนๆ ๓. นั่งขัดสมาธิ ขาขวาทับขาซ้าย มือขวา ทับมือซ้าย นิ้วชี้ของมือข้างขวาจรดนิ้วหัวแม่มือ ข้างซ้าย นั่งให้อยู่ในท่าที่พอดี ไม่ฝืนร่างกายมาก จนเกินไป ไม่ถึงกับเกร็ง แต่อย่าให้หลังโค้งงอ หลับตาพอสบายคล้ายกับกำลังพักผ่อน ไม่บีบ กล้ามเนื้อตาหรือขมวดคิ้ว แล้วตั้งใจมั่น วาง อารมณ์สบาย สร้างความรู้สึกให้พร้อมทั้งกายและ ใจว่ากำลังจะเข้าไปสู่ภาวะแห่งความสงบสบาย อย่างยิ่ง ๔. นึกกำหนดนิมิต เป็น “ดวงแก้วกลมใส” ขนาดเท่าแก้วตาดำ ใสบริสุทธิ์ ปราศจากรอย ตำหนิใดๆ ขาวใส เย็นตาเย็นใจ ดังประกายของ ดวงดาว ดวงแก้วกลมใสนี้เรียกว่า บริกรรมนิมิต นึกสบายๆ นึกเหมือนดวงแก้วนั้นมานิ่งสนิทอยู่ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ นึกไปภาวนาไปอย่างนุ่มนวล น้อมนึกดวงแก้วกลมใสให้ค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่ ศูนย์กลางกาย ตามแนวฐาน โดยเริ่มต้นตั้งแต่ฐาน ที่ ๑ เป็นต้นไป น้อมนึกอย่างสบายๆ ใจเย็นๆ ไป พร้อมๆ กับคำภาวนา อนึ่ง เมื่อนิมิตดวงแก้วกลมใสปรากฏแล้ว ณ กลางกาย ให้วางอารมณ์สบายๆ กับนิมิตนั้น จน เหมือนกับว่าดวงนิมิตเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ หากดวงนิมิตนั้นอันตรธานหายไป ก็ไม่ต้องนึก เสียดาย ให้วางอารมณ์สบาย แล้วนึกนิมิตนั้นขึ้น มาใหม่แทนดวงเก่า หรือเมื่อนิมิตนั้นไปปรากฏที่อื่น ที่มิใช่ศูนย์กลางกาย ให้ค่อยๆ น้อมนิมิตเข้ามา อย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีการบังคับ และเมื่อนิมิต มาหยุดสนิท ณ ศูนย์กลางกาย ให้วางสติลงไปยัง จุดศูนย์กลางของดวงนิมิต ด้วยความรู้สึกคล้าย มีดวงดาวดวงเล็กๆ อีกดวงหนึ่ง ซ้อนอยู่ตรงกลาง ดวงนิมิตดวงเดิม แล้วสนใจเอาใจใส่แต่ดวงเล็กๆ ๑๐๖
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More