การขออโหสิกรรมในประเพณีพุทธ ส่งบุญ หน้า 17
หน้าที่ 17 / 94

สรุปเนื้อหา

การขออโหสิกรรมเป็นการแสดงความปรารถนาให้อภัยต่อผู้อื่น โดยเป็นสิ่งที่ชาวพุทธให้ความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อลดกรรมและความทุกข์ในชีวิต เมื่อมีสติและสัมปชัญญะ การขอโทษควรทำในขณะที่เรายังสามารถพูดได้เต็มที่ เพื่อไม่ให้มีเวรกรรมติดตัวในอนาคต การขออโหสิกรรมสามารถทำได้ทั้งในสิ่งที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว เช่น การกล่าวคำขอโทษในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบง่ายหรืออย่างเป็นทางการ ซึ่งช่วยสร้างความสุขและความสงบในจิตใจของทั้งสองฝ่ายและเป็นการปลดปล่อยตัวเองจากความรู้สึกผิด.

หัวข้อประเด็น

-ประเพณีพุทธ
-การขอโทษ
-อโหสิกรรม
-การให้อภัย
-การลดกรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

17 1.4 ขออโหสิกรรม การขออโหสิกรรมเป็นประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการดำเนินชีวิตของเรา อาจจะเคยกระทำผิดพลาดล่วงเกินซึ่งกันและกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทั้งด้วยกาย ด้วยวาจาและด้วยใจ ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว การขออโหสิกรรมก่อนที่บุคคลจะละสังขาร ก็ไม่ควรรอจนบุคคลหมดสติ หรือมีทุกขเวทนามาก ควรทำในขณะที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนบริบูรณ์ เพื่อไม่ให้เป็นเวรกรรมติดตัวไป ข้ามภพข้ามชาติ ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ตัวอย่างคําขอขมาอย่างง่าย “หากผมได้เคยผิดพลาดล่วงเกิน ด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งเจตนาและไม่เจตนา ๆ : ได้โปรดอดโทษและให้อโหสิกรรมแก่ผมด้วยเถิด” ตัวอย่างคำขอขมาอย่างเป็นทางการ (อาจกล่าวพร้อม ๆ กัน โดยมีผู้กล่าวนำ) : “ข้าพเจ้า ขอน้อมนำพวงมาลัย ดอกไม้ มากราบขออโหสิกรรม หากข้าพเจ้า ได้เคยประพฤติผิดพลาดล่วงเกิน ด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งต่อหน้าก็ดี ทั้งลับหลังก็ดี ทั้งที่มีเจตนาก็ดี ทั้งที่ไม่มีเจตนาก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ขอท่านได้โปรดอโหสิกรรม ให้แก่ข้าพเจ้า กรรมใดที่ได้เคยล่วงเกินต่อกันและกัน ขอจงเป็นอโหสิกรรมในกาลบัดนี้เทอญ”
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More