ข้อความต้นฉบับในหน้า
80
สุภัททาเทพธิดาจึงอธิบายว่า เหตุที่เธอได้เกิดเป็นเทพชั้นสูงกว่าเพราะเธอได้นิมนต์พระสงฆ์ 8 รูป
มีพระเรวตเถระเป็นประธาน เพื่อถวายภัตตาหาร พระเรวตเถระปรารถนาจะอนุเคราะห์เธอ จึงบอกให้มุ่งถวาย
แด่สงฆ์ ไม่ถวายเจาะจงแม้รูปใดรูปหนึ่ง ซึ่งเธอก็ได้ทำตามนั้น ทักขิณาจึงเป็น “สังฆทาน” ซึ่งมีอานิสงส์
มากกว่าที่พี่ภัททาถวายแก่ภิกษุรายบุคคลด้วยความเลื่อมใส
ได้ยินดังนั้นแล้ว ภัททาเทพธิดาจึงกล่าวว่า “พี่เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า การถวายสังฆทานนี้มีผลมาก ถ้าว่า
พี่ได้ไปบังเกิดเป็นมนุษย์อีก จักเป็นผู้รู้ความประสงค์ของผู้ขอปราศจากความตระหนี่ ถวายสังฆทาน
และไม่ประมาทเป็นนิตย์” เมื่อสนทนากันแล้วนางสุภัททาเทพธิดาก็กลับไปสู่ทิพยวิมานของตนบนสวรรค์
ชั้นนิมมานรดี
ทานวัตถุ
ทรัพย์สินหรือสิ่งของที่ควรถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ แบ่งออกเป็น 10 ประการ คือ (1) ภัตตาหาร
(2) น้ำรวมทั้งเครื่องดื่มอันควรแก่สมณบริโภค (3) ผ้าและเครื่องนุ่งห่ม (4) ยานพาหนะ (รวมถึงปัจจัย
ค่าโดยสาร) (5) มาลัยและดอกไม้เครื่องบูชาชนิดต่างๆ (6) ของหอม เช่น ธูป เทียน และกำยาน
(7) เครื่องลูบไล้ เช่น สบู่ และครีมโกนหนวด (8) ที่นอนอันควรแก่สมณะ (9) ที่อยู่อาศัย มีกุฏิเสนาสนะ
และเครื่องใช้ เช่น เตียง ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ (10) แสงสว่าง เช่น เทียน ตะเกียง หลอดไฟ ไฟฉาย ทั้ง 10 ประการนี้
ถือเป็นทานวัตถุอันควรแก่การถวายทาน