การจัดงานสลายร่าง (ฌาปนกิจ) ส่งบุญ หน้า 49
หน้าที่ 49 / 94

สรุปเนื้อหา

การจัดงานฌาปนกิจศพเริ่มต้นด้วยการกำหนดวันเวลาและการเชิญผู้ที่เคารพนับถือ จากนั้นเจ้าภาพจะเชิญศพไปสู่เมรุโดยการเดินนำหน้าของพระสงฆ์ ญาติสนิทจะถือภาพและกระถางธูปตามหลัง โดยมีการเวียนรอบเมรุ ก่อนจะมีพิธีกล่าวสดุดีและการทอดผ้ามหาบังสุกุลจากแขกผู้ใหญ่ในงาน เพื่อให้เป็นการขอขมาศพ ก่อนจะเผาจริงจะมีการสวดพระอภิธรรมและการเผาศพภายหลังให้เป็นไปตามประเพณี

หัวข้อประเด็น

-ขั้นตอนการฌาปนกิจ
-พิธีการและการแสดงความเคารพ
-การเผาศพจริง
-บทบาทของพระสงฆ์ในงานฌาปนกิจ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

49 4. การจัดงานสลายร่าง (ฌาปนกิจ) ในการฌาปนกิจศพของผู้ละสังขารนั้น เมื่อถึงเวลาที่เจ้าภาพกำหนดแล้ว ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ ฌาปนสถานและออกบัตรเชิญ โดยกำหนดวันเวลาให้ผู้เคารพนับถือทราบทั่วกัน เมื่อเสร็จพิธีบำเพ็ญกุศลแล้ว ต้องเชิญศพไปสู่เมรุ โดยมีพระสงฆ์ชักศพหรือเดินนำหน้าศพ ส่วนบรรดาญาติจะเดินตามหลังศพไปโดยสงบ ยกเว้นญาติสนิทที่จะถือภาพของผู้ละสังขาร และกระถางธูปเดินนำหน้า ริ้วขบวนจะเวียนรอบเมรุเป็น “อุตราวัฏ” คือเวียนซ้ายทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ เมื่อศพผ่านมา ผู้ที่นั่งอยู่จึงลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงความเคารพ ต่อศพนั้นด้วย หลังจากตั้งศพแล้วเป็นพิธีกล่าวสดุดีผู้ละสังขาร จากนั้นก่อนประชุมเพลิง เจ้าภาพจะเชิญ แขกผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ เป็นผู้ทอดผ้ามหาบังสุกุลที่หีบศพ บนสายสิญจน์หรือบนภูษาโยง ผู้ทอดผ้าคนสุดท้าย เป็นคนจุด “เพลิงศพหลอก” เป็นการขอขมาศพครั้งสุดท้ายก่อนเผาจริง โดยจะมีพระสงฆ์ 4 รูปสวด พระอภิธรรม หรือที่เรียกว่า “สวดหน้าไฟ” ในช่วงนั้น แขกที่มาในงานและญาติมิตรจะทยอยกันขึ้นมาเผาศพหรือขอขมาศพด้วยการวาง ดอกไม้จันทน์ ธูป และเทียนตามที่เจ้าภาพเตรียมไว้เป็นชุด ๆ แล้วจึงลงจากเมรุพร้อมรับของที่ระลึกจากเจ้าภาพ เมื่อเผาหลอกเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ฌาปนสถานจะเคลื่อนศพไปยังเตาสำหรับเผาจริง ก่อนเผาจริง เจ้าหน้าที่เมรุหรือสัปเหร่อจะทุบหรือต่อยมะพร้าวห้าวที่ปอกเปลือกแล้วเพื่อให้กะลาแตก แล้วนำน้ำมะพร้าว มาล้างหน้าศพก่อน จากนั้นจึงเคลื่อนโลงศพเข้าเตาเผา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More