ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ ๑ นามกิตติ์
ความหมายของนามกิตติ์
หมายถึงคำที่จำแนกหนึ่ง ที่มีธาตุประกอบด้วยข้อจํานวนมากมาย ๑๕ ตัว คือ กีวิต นฺณ ฑฺณุ ญฺรว ฑติ อฺติ ติ ฑี ฑุ ยุ ตวี, เมื่อสำเร็จแล้วแจกแจงนามกิตติ์ใช้เป็นนามกิตติ์ในบ้าง จึงเรียกว่านามกิตติ์
ปัจจัยสำหรับประกอบเป็นนามกิตติ์ ตามคำมัธยรากที่กล่าวถึงในหลักไวยากรณ์ยังมีอีกหลายตัว แต่ในแบบเรียนนี้บ่มเพียงมีใช้มาและมีเฉพาะในหลักสูตรบันลือสามหลวงเท่านั้น
เนื้อความของนามกิตติ์
เมื่อก่อนใช้ในประโยคสีไม่ว่าจะเป็นการพูดก็เขียนก็ เนื้อความของนามกิตติ์แต่ละคำก็จัดเป็นลักษณะต่าง ๆ มีความหมายหรือหน้าที่ของแต่ละคำก็แตกต่างกันไปตามสภาพ
สังนะ
สังนะหมายถึงคำศัพท์ที่ยังคงไว้ในวิเคราะห์ให้สำเร็จ เช่น เทติ ทายโก อนุกตโล ยมให้ เพราะเหตุนี้ อนุกตโลชื่อว่า ทายโก แปลว่า ผู้ให้ เทติ เป็นก็ภววิเคราะห์ เป็นก็จตุจากกล่าวถึงผู้หา ทายโก จัดเป็นสันตะเพราะทำก็ริกก็ เหตุ ให้สำเร็จเป็นคุณนามก็อทก มีเรียกว่าติดต่อสันนะ เพราะเป็นชื่อของผู้หา
ทุกเขน กรีฑติ ทุกูร อ. กรรมโด อนุกตคล้อมทำได้โดยยาก เพราะเหตุนี้ อ. กรรมโดชื่อว่า ทุกูร แปลว่า อนุบุคคลทำได้โดยยาก กรีฑติ เป็นก็ภววิเคราะห์เป็นก็จะมาวางจากกล่าวถึงคู่ตุกว่า ทุกูร เป็นสันตะเพราะทำก็ริกก็ ให้สำเร็จเป็นคุณนามคือ ทุกูร และ ทุกูร มีชื่อเรียกว่ากันสมะนะ เพราะเป็นชื่อของกรรมสงูถูกว่า
รูปวิเคราะห์
ในภาพธรรม รูป นามถึงสิ่งที่จะต้องแยกก็ประกอบก็ออกไปเพราะความร้อนความเย็นเป็นต้น ในภาษ ไทย ภาษาไทย หมายถึง การนำศัพท์นั้น ๆ ออกก็ประกอบก็ให้เห็นชัด และ กรณี (หน้า) เป็นต้น เช่น