ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงต้องเรียกประชุมสงฆ์ เพื่อบัญญัติพระวินัยขึ้นเป็นระเบียบ สำหรับกำกับการประพฤติปฏิบัติตนของหมู่สงส์ให้เป็นแบบแผนองค์หนึ่งเดียวกัน ให้นึกเข้าใจตรงกันทั้งสงฆมนฑลเพื่อเป็นการวางรากฐานของพระพุทธศาสนาใหมั่นคงสถิ์ไปภายใน
ปัญหาที่เป็นเหตุให้เกิดการบัญญัติพระวินัยของสงฆ์นั้นมีอยู่ ๕ ประการ คือ
๑. ปัญหา พระเทวะวานาน แต่ฝึกตนไม่ได้พอ
๒. ปัญหา พระวินใหม่ไม่ได้รับการฝึกอบรม
๓. ปัญหามีลักษณะมาก แต่ขาดความรู้ประมาณ
๔. ปัญหาพระภิฏฐุเป็นปฏิฆุผิช ชอบดีเด่นผู้น ต์ไม่ชอบปฏิบัติปาหิง ฯ ประการนี้ เกิดจากสาเหตุหลัก ๕ ประการ คื อ การไม่อยู่เนสัย ๕ การไม่สำรวมอิทธิริยี การไม่รั้บประมานในการบริโภค และการไม่บำเพ็ญตนวนเพื่อปราบกิเลส สังหนดนี้เป็นการฝึกอบรมขั้นพื้นฐาน ที่ต้องได้รับการเยียมชีกจากพระอุปชาชาติหรือพระอาจารย์ตนตั้งแต่บัน pro ได้รับอนุญาตจากที่ประชุมสงฆ์ให้เข้ามาเป็นพระภิฏฐุในพระพุทธศาสนา
โดยเหตุที่ในช่วงปลายพุทธกาล การอบรมคือการเชิญวิสัย ๕ และอุปนานกาญจ์ ๓ ซึ่งเป็นคุณธรรมขั้นพื้นฐานของความเป็นพระภิฏฐุยิ่งทำไม่เต็มที่จึงให้ลดสังรีบาลในจิตใจพระภิฏฐุ อันเป็นเหตุให้ปัญหาหลายด้าน เช่น การเกี่ยวพารสีติ ความละโมบในลาภลาภากระ การลักทรัพย์ การถุกผีมินิเกราะเนื่องซึ่งคำสรรเสริญเยินยอดพระภิฏฐุที่อปปัญหาต่าง ๆ จึงกลายเป็นต้นบัญญัติพระองค์ต้องประชุมสงฆ์เพื่อบัญญัติพระวินัย
หลักฐานด้านบุคคลและวัตถุที่เป็นเหตุให้ต้องมีการบัญญัติวง่นั้นมีอยู่มากมาย แต่ที่เป็นเหตุให้ต้องบัญญัติวิบัติเรื่อยๆ มี ๗ ประเภท ได้แก่ สดร สตง ค์ สรรเสริญ จิว นินทาเสด เสนาะ และภารำไตร ซึ่งเป็นสถานที่จึงต้องมีกาประมงสง์เพื่อบัญญัติพระวินัยนั้น มีมากถึง ๑๒๒ ข้อ แบ่งเป็นปรัชญ ๕ สังฆมาส ๑๓ นิยด ๒ นิสสัยอัปมิ ๓๐ ปาจิตตียะ ๓๒ ปฏิสเนีย ๔ เสยิวัติ ๕ อภิการสมะ ๗