ข้อความต้นฉบับในหน้า
ในนั้นนั้น มีการประชุมครั้งใหญ่ของเหล่าเทวดาจำนวนมากจาก ๑๐ โลกา ตลอด ๑๐๐,๐๐๐ จักรวาล (๑ โลกา รวมด้วย ๑,๐๐๐ จักรวาล) เพื่อมาเฝ้าชมพระบารมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะประทับอยู่ในพระองค์ทรงสถาปนาอัน ๕๐๐ รูป ที่มาหาวัน เขตตรงภูมิลิขิต แล้วจึงลักษณะ หลังจากที่พระพุทธองค์ทรงนำให้พระอรหันต์ตราบกว่า มีทิวภาพกลุ่มใด จากกล้ววรัชนี รูปต่างๆเป็นอย่างไร จำนวนเท่าไร มาเข้าเฝ้า ก็มาถึงกลุ่มสุดท้าย ซึ่งเป็นกองทัพเสนามารในเบื้องต้น พระพุทธองค์ได้ตรัสสั่งเหล่าเทวดาทั้งหลายว่า “จงดูความโง่เขาของกัณหา หมารผู้พยายามใช้รอบรัศมีใจพระอรหันต์ แต่สุดท้ายก็ต้องพบกับความล้มเหลว พากันยกกองทัพมารกลับไปด้วยความโกรธเกรี้ยว” ดังหลักฐานต่อไปนี้ เมื่อเสนามารมาถึง พระศาดาได้ตรัสสั่งพวกเทวดาทั้งหมดเหล่านั้น พร้อมทั้งพระอินทร์และพระพรหมผู้ประชุมอยู่ จงดูความโง่เขาของกัณหา มหาเสนามารได้ส่งเสนามารไปในที่ประชุมใหญ่ของเหล่าเทวด้วยคำว่า “พวกท่านจงไปจับหนุมเทพผูกไว้ พวกท่านจงเอาไว้ด้วยอาระเขิด จลล้อไว้ทุกด้าน ใคร ๓ อย่าได้ปล่อยให้ได้หลุดพ้นไป” แล้วก็เอามือตบดินแดน ก็เสียงน่ากลัว (แต่) ในเวลานั้นไม่อาจทำให้ใครดรอในอำนาจได้ จึงกลับไปที่ทิ้งเทียรโกรธเหมือนเมฆฝนที่บันดาลให้ฝนตกฟ้าร้อง ฟ้าลง ฉะนั้น
จากนั้น พระพุทธองค์ก็ตรัสสั่งพระอรหันต์ตั้งหลายว่า “ญาณมารได้กองทัพมาลแล้ว” จทาความรู้จากพวกรวารด้วยอำนาจแห่งญาณสันนะ พระอรหันต์ตรัสรับสั่งแล้วก็ทรงเทียบรวนในญาณสันนะแสดงตรวจดูของทิพยามราที่กำลังพลกลับไปฝ่ายญมารเมื่ออุธว่าพระอรหันต์มองเห็นพวกตนแล้ว ก็กล่าวอมรับว่า “พระสาวของพระองค์เป็นฝ่ายชนะก็เสมอมาได้แล้ว” ดังมีหลักฐานปรากฏดังนี้ พระศาดาได้พยุงพระจักยอดรบเหตุทั้งหลาย ลงวิ่งคำเรียกพระสัจจะในศาสนามตรรว่า “ภิญทุทหลาย เสนามารุมมากันแล้ว พวกเขาจงรู้จักพวกเขา” ภิกษุเหล่านี้และรับรอบซ้อนพระอรหันต์แล้วพากันทำความเพรียง เสนามารก็ไปจากเหล่าภิญทุทผู้ปราศจากกะเล ไม่อาจแม้ท่านของภิญทุทเหล่านั่นให้หัวได้ (พยามารกล่าวสรรเสริญว่า “หมู่พระสาวของพระพุทธเจ้าชนะสงครามและทั้งสิ้น ล่วงพ้นความหวาดกลัว มีอธิฐอุญใส่หมู่ชน บันเทิงอยู่กับภูติ” ทั้งหลาย
จากคำอธิบายนี้เป็นมูลเหตุจึง ย่อมเป็นหลักฐานให้พวกเราได้รับ พยามารคือ ผู้กระบั่นกลศให้การีเสนามั่งขึ้นในใจมนุษย์ เพื่อจะได้ควบคุมมนุษย์ให้ติดอยู่ในกุศลแห่งวัฏสงสารไปตลอดกาล แม่พระอรหันต์ผู้กำจัดเสลอีได้หมดสิ้นแล้ว พยามารก็พยายามจะควบคุมบัณฑินร้อนพระอรหันต์ให้ล้มในโครงสสารอีกครั้ง