พญามารและการควบคุมวัฏสงสาร วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2556 หน้า 66
หน้าที่ 66 / 108

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงบทบาทและอำนาจของพญามารในการควบคุมวัฏสงสาร โดยเฉพาะในการขัดขวางการตรัสรู้และการเข้าถึงนิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นระหว่างการเปิดเผยพระศาสนาในสมัยต่างๆ ของพระองค์ มีความสำคัญในการศึกษาเกี่ยวกับศาสนาและแนวคิดทางพุทธศาสนาในแง่มุมต่างๆ เช่น การต่อสู้กับกิเลส การเรียนรู้จากพระไตรปิฎก และการปฏิบัติธรรมในการมองเห็นญาณทัสสนะของตนเองเพื่อก้าวออกจากวัฏสงสาร

หัวข้อประเด็น

-บทบาทของพญามาร
-การขัดขวางการตรัสรู้
-การบรรลุนิพพาน
-พระไตรปิฎก
-การปฏิบัติธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ที่ได้ พญามารไม่อนุญาตวันให้ใครลุกขึ้นจากความเป็นน่านเป็นทาศของกิจ笑 ไปได้ โดยง่าย แม่แต่พระอรหันต์ผู้ถึงพิบูลสมดั่งดลแล้ว ก็ยังตามรังควานราวีไม่ลดละ นี่เอง ตัวอย่างความร้ายกาจของพญามาร ผู้พยายามควบคุมใจมนุษย์ด้วยกิเลส อันเป็นข้อสังเกตที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ซึ่งจะต้องอาศัยการปฏิบัติธรรมนิสมงค์ ๓ เพื่อปรับไปเห็นด้วยญาณทัสสนะของตนเองกันต่อไป ๒. ใครคือผู้ควบคุมวัฏสงสาร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เรบบอกไว้ว่า ใครเป็นผู้สร้างวัฏสงสาร ทรงพบแต่เพียงว่า วัฏสงสารมีมายาวนานก่อนที่ทรงตรัสรู้เสียอีก ยิ่งกว่านั้นยิ่งพบว่า ในเวลาใดที่จะมีผู้หลุดพ้นออกจากวัฏสงสาร จะผึ้งแสดงตัวออกมาขัดขวางการบรรลุธรรม ผลนิพพาน ในทันที นั่นคือ “พญามาร” ในพระไตรปิฎกมันดับกเรื่องพญามารอยู่หลายแห่ง ซึ่งสรุปได้ว่าพญามารปรากฏตัวให้เห็นอยู่ ๕ วาระ คือ วาระแรก ก่อนการตรัสรู้ธรรม มารปรากฏตัวเพื่อขัดจังหวะการตรัสรู้ธรรมของพระโพธิสัตว์ โดยใช้ฐานสังริพ ตั้งแต่ใช้สิทธิมูจิ ใช้การทวงสิทธิ์ และใช้กลายอำนาจที่ได้กล่าวมาแล้ว วาระที่สอง หลังการตรัสรู้ธรรม มารปรากฏตัวเพื่อขอให้พรสัมมาสัมพุทธเจ้าเลือดดับบันธปริพพาน เรื่องนี้มีหลักฐานปรากฏในมหาปริวรรตวุตรวิภัสด์ เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ ๕ หลังการตรัสรู้ธรรม พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องนี้กับพระอานนท์ว่า มารเข้าไปหาพระองค์ แล้วกล่าวว่า “ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าปริพพาน” แต่พระองค์ก็ตรัสตอบมาด้วยมีสาระสำคัญว่า “ตรวจไดทั่วพระพุทธศาสนายังไม่เป็นปิกแผนแพร่หลาย กว้างไกล เหลาทวดและมนุษย์ยังไม่เชียชาญในการประกาศพระศาสนา ก็จะยังไม่ปรินิพพาน” เมื่ได้ฟังพระดำรัสตอบเช่นนั้นแล้ว มารก็จากไปด้วยความคิดว่า พระพุทธดำรัสครั้งนั้น คือการให้สัญญาของพระพุทธองค์ แต่ทว่าในระหว่างที่พระองค์ทรงทำงานเผยแพร่พระศาสนา เพื่อพาชาวโลก แหกออกจากวัฏสงสารนั้น มาริยงตามรังควานขัดขวางทั้งพระองค์และทีมงาน คือ เหล่าพระอรหันต์ (ภิกษุผู้สามารถแหกกฎวัฏสงสารตามคำสอนของพระพุทธ-องศได้สำเร็จแล้ว) อยู่กิริยาถาง เช่น นำวัตรกรรมมาในดีนตรีตอพระพุทธองค์ สมัยเป็นพระโพธิสัตว์ตามเล่นงานพระองค์บ้าง แล้วเข้าไปอยู่ในท้องพระเมศา-
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More