ข้อความต้นฉบับในหน้า
Because of the document's image quality, some characters might be misinterpreted. Here's the OCR result:
เพราะฉะนั้น จากพฤติกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ตามข้อสังเกตจากหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก ซึ่งพระองค์ทรงบอกว่าเป็นเพียงธรรมเนื้อแท้ ย่อมสรูปได้ว่า
1. มาร คือ ผู้ใช้โลหะควบคุมจิตมนุษย์
2. มาร คือ ผู้ควบคุมกิเลสวัฏสงสาร
สำหรับเรื่องที่จะปรู้อความจริงต่าง ๆ ในวุฒิสสารอันเป็นธรรมที่ทรงตรัสรู้แต่ไม่ทรัสสอนนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำให้ได้ คือ การปฏิบัติมรรคองค์ ๓ ถึงกระทั่งบรรลุวิชชา ๓ ให้ได้เสียก่อน เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาว่า เรื่องอื่น ๆ เช่น มารมีความเป็นอย่างไร กุศลแห่งกรรมกับอกุศลที่มาของความเป็นอย่างไร การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารมีทำอย่างไร ปฏิรูปชาติแห่งการเกิดของมนุษย์มีทำอย่างไร เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ผู้ที่จะมีโอกาสบรรลุวิชชา ๓ ได้นั้นจำเป็นต้องบำเพ็ญภูวนา โดยยึดหลักปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ ดังนี้
"หนัง เอ็น และกระดูกจงแห้งเหิดไปเกิด เนื้อและเลือดในสายของเราจงเหิดแห้งไปตามนั้น เมื่อเรายังไม่บรรลุสลอที่พึงบรรลวยด้วยเรือนแรงของบรษ ด้วยความเพียรของบรษ ด้วยความบากบั่นของบรษแล้ว จักไม่หยุดความเพียรนั้น"
บุคคลที่ตามพระดำรัสนี้ได้จริงในจุฬาองพวกเรา และพวกเราก็ถูกบั่นท่านนั้นคือ พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนทสโร) หลวงปู่ดาวล่า ภาษีเจริญ ผู้เป็นมาหาปุถุชนายของพวกเรานั่นเอง ส่วนพวกเราเมื่อหยิ่งทำไม่สอดคล้องกับท่านก็ให้ตรีสรัลภิกขาไว้เป็นกำลังใจ แล้วก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมเมืองollapse คร่ำต่อไปโดยไม่อ้อต๊ะ สักหน่อยเมื่อบารมีเต็มเปี่ยม เราย่อมทำได้เหมือนดังท่าน สำหรับพวกเราที่เป็นนักสร้างบารมี ซึ่งบัดนี้ก็รู้ตัวแล้วว่า เรากำลังเป็นนักโทษติดอยู่ในคุกอัคคีอสูรสถาน จึงจำเป็นต้องรู้ว่า ตนควรดำเนินชีวิตบนเส้นทางนักสร้างบารมีอย่างไร จึงจะมีโอกาสบรรลุบิวชา ๓ มีโอกาสสู่รัฐอิสัจจ ๔ มีโอกาสไปศึกษาความจริงเพื่อการบรรลุที่สุขแห่งธรรมต่อไป...
(อ่านต่อฉบับหน้า)