ข้อความต้นฉบับในหน้า
เดนิส จากประเทศเคนยา เล่าว่า
“บับเบิลอยู่กับผมตลอดเวลา มันเบาสบายมาก คืนนั้นผมเข้าไปอยู่ในบับเบิล ซึ่งสว่างมาก สงบจริง ๆ”
ส่วนผู้เข้าร่วมโครงการคนอื่นกล่าวว่า ตัวหมุน ตัวโยน ไม่รู้สึกถึงร่างกาย บางคนบอกว่า เวลาผ่านไปเร็วมาก (ทั้งที่นานถึง ๕๐ นาที เป็นอย่างน้อยในแต่ละรอบ) บางคนบอกว่า สบาย มีความสุขโดยไม่ต้องกาจะอะไรก็ไม่มีความคิด นิ่ง ๆ หรือเห็นแสงสว่าง (เขาใช้คำว่าสิ่งส่องสว่างออกมาจากกลางกายฉัน) บางคนเห็นดวงตะวัน ดวงจันทร์ ดวงแก้ว ที่ศูนย์กลางกาย รวมไปถึงความรู้สึกตกศูนย์ ผลพลอยได้จากการนี้คือ พวกเขายังเห็นความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ด้วย เช่น ดอกดอกลั่นมากขึ้น ไม่มีกรด และเครียดน้อยลง เป็นต้น การปฏิบัติธรรมร่วมกันในครั้งนี้ นอกจากอาให้เกิดความสุขและประสบการณ์ดี ๆ มากมายดังกล่าวแล้ว ยังทำให้เกิดมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างผู้คนต่างเชื้อชาติ และช่วยเปิดโลกทัศน์ของทุกคนให้กว้างขึ้น ที่สำคัญยังช่วยจุดประกายความสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นโอกาสทองที่เราจะได้เผยแผ่สิ่งดี ๆ ในศาสนาของเราให้ชาวต่างชาติได้แบบเนียน ๆ โดยไม่รู้สึกว่าเป็นการชักจูง เพราะพวกเขาเกิดคำถามขึ้นมาเอง เช่น พระพุทธเจ้า คือใคร อะไรคือจุดเริ่มต้นของเส้นทางในพระพุทธศาสนาอิบายเรื่องชีวิตหลังความตายและการกลับชาติมาเกิดไว้อย่างไร พระดูแลครอบครัวอย่างไร ทำไมพระต้องหมิ้วสีสั่ล ทำไมต้องโกนผม โกนคิ้ว พระมีครอบครัวได้หรือไม่ ทำไมผู้หญิงแตะต้องตัวพระไม่ได้ ก็อาจ กิจกรรมของพระเป็นอย่างไร พระจะฉันอย่างไรถ้าไม่มีใครประเคน ทำไมคุณถึงอยากบวชเป็นกัน
เรื่องว่า ดี ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ สร้างความประทับใจและภาคภูมิใจที่ทีมงานมาก คนมีค่ากว่า “อุบาสวก” ไปเลย เพราะในวันนี้มีดนตรีขับและสิ่งดีงามของใจของเพื่อนมนุษย์ผู้มีบุญเหล่านี้แล้ว และจากนี้จะสัมผัสกับพวก เขา เรามีใจจากการสร้างสันติภาพในดินแดนแทบนี้ จะมีบุคคลที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและมีใจเกินร้อยมาร่วมงานต่ออย่างแน่นอน.