การเกิดเป็นมนุษย์และพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน มีนาคม พ.ศ.2557 หน้า 74
หน้าที่ 74 / 111

สรุปเนื้อหา

การเกิดเป็นมนุษย์นั้นมีความยากมากยิ่งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธองค์เคยอุปมาโอกาสการเกิดขึ้นของพระองค์ในอนาคตด้วยการเปรียบเทียบกับเต่าตาบอดที่มีโอกาสพบกับห่วงตาที่เล็กมาก แสดงให้เห็นถึงความยากมากในการบรรลุธรรม เป้าหมายในการเกิดเพื่อช่วยสัตว์โลกคือเหตุผลที่ทำให้พระองค์ตั้งใจยังคงอบรมฝึกฝนตน นอกจากนี้ยังมีความสำคัญของการเตรียมการสอนและการประกอบกิจกรรมตามที่พระพุทธเจ้าทรงวางแผนไว้ เพื่อให้บรรลุความสมบูรณ์แบบในการช่วยให้ผู้คนเห็นความจริงของชีวิตและหมดจากทุกข์

หัวข้อประเด็น

-ความยากในการเกิดเป็นมนุษย์
-การเกิดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-การฝึกฝนอบรม
-การเตรียมการสอนของพระพุทธเจ้า
-ความหมายของวิบากกรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

โลกจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้นเป็นความยากอย่างยิ่ง การเกิดเป็นมนุษย์นั้นหายาก แต่การบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรื่องความยากของการเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อเตือนใจทุกคนไม่ให้ปะมาณผลอปฺเปผลดซดและไปบังเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานไว้ว่า หากเราเจอสัตว์เดรัจฉานไม่ว่า สัตว์เหล่านั้นจะสัตว์ไม่มีเท้าหรือสัตว์ไม่มีเท้าดาม ขอให้เราว่า สัตว์เหล่านี้ส่วนเป็นดีดีมนุษย์ททำบาปภกรรมในอัตตชาติเวล เมื่อมาเกิดในชาติปัจจุบัน วิบากกรรมฝ่ายบาปยังผลให้เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน และโอกาสที่จะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากยิ่ง พระพุทธองค์จงอุปมาความยากนี้โดยเปรียบกับเต่าตาบอดขอทุกตัวหนึ่ง ที่มปกติด้านในมหาสมุทรที่ลึกและกว่างใหญ่ ทุก ๑๐๐ ปี จะโผล่มาขึ้นมาใส่ครั้งหนึ่ง แล้วก็ดำลงไปอีก ในมหาสมุทรนั้นมันหวังกลม อันหนึ่งขนาดพอดีกับหัวของเต่าอ่อนอยู่ โอกาสที่เต่าตัวนั้นจะโผล่ขึ้นมาหายใจแล้วสดหัวเข้าไปในห่วงตาเดียวที่อยู่ได้พอดีเป็นเรื่องยากเย็น ขนาดไหน โอกาสที่สัตว์เดรัจฉานจะเกิดเป็นมนุษย์ยากกว่านั้น การเกิดเป็นมนุษย์ธรรมา ว่ายากแล้ว แต่การเกิดเป็นพระสงสัมพุทธเจ้ายากกว่านั้นเป็นล้าน ๆ ๆ ๆ เท่า เพราะว่ามนุษย์ธรรมวจจะฝึกฝนอบรมตนเองจนสามารถสอดความรู้ที่ถูกต้อง ตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าในธรรมพงษ์ฤดี กจนกระทั่งเตือนตัวเองได้ว่าการบังเกิดในวันนี้ และตั้งใจบวชไว้คับความรู้ในการประกอบกิจ จนกระทั่งหมดโกลาสด้วยตนเอง เป็น “พระปัจเจกพุทธเจ้า” โดยไม่มีผู้สอนนั้น ก็ในเรืองกายอา ถ้า การฝึกตนเองต่อไปจนกระทั่งบเป็น “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” คือ พระบรมครูที่สอนชาวโลกให้แจ้งเห็นจริงหมดกิเลสตามพระองค์ไปด้วยนั้น ย่อมยิ่งมากขึ้นไปอีก การเตรียมการสอนของพระบรมครู เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทรงจะเลิกชาติต่ออนหลังไม่ถึงครั้งยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์ที่ทรงได้พบกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า “พระทีปังกรพุทธเจ้า” และทรงได้รับพุทธยานวมา ในอนาคต อีก ๔ องใข กับ ๑ แสนมหากัป จะทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ในขณะนั้น พระองค์ทรงออกบวชเป็นภสมิณามว่า “สุเมธดาบส” ทรงบำเพ็ญบารมีมาเป็นเวลานานถึง ๑๒ อสงไขยแล้ว ความจริงแล้วด้วยระยะเวลาเท่านี้ ในวันทีทรงพบกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ถ้าพระองค์ตั้งพระทัยจะเป็นพระอรหันต์ ก็รงเป็นพระอรหันต์ได้ในครั้งนั้นเลยที่เดียว แต่พระองค์น่านกว่ากว่าครงมาขึ้นนี้ ทรงใช้บุคลากรอมบารมีมากความยากเบื่อหน่ายว่า ถ้าดีดสนพระทัยเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็จะต้องตรงบั่นบันใยเข้าสพระนิพพานไปในชาตินั้น แต่มีสัตว์โลกอากามมากมายที่ไม่รู้ว่าอะไรเลยเกี่ยวกับความจริงของชีวิต พระองค์จึงทรงยันความมั่นใจดั่งว่าจะทรงไปเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต เพื่อทรงช่วยชาวโลกให้หมดทุกข์ตามไปเป็รให้ได้มาก ๆ จงตัดสินพระทัยขอยอยู่ฝึกอาชาคร เตรียมการเทศกน การสอนการอบรมชาวโลก ต่อไปอีก ๑๙๙๑ กับ ๑ แสนมหากัป
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More