บทสัมภาษณ์พระครูปลัดสุวัฒน์ ธีรวุฒิโภและพระมงกุฏ ดร.สมชาย จานวุฒิโภ : หน้า 44/136

บทสัมภาษณ์ พระครูปลัด สุวัฒน์ ธีรวุฒิโภ ไปกราบท่านที่ไปร ท่านมักจะอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ค้นคว้าพระไตรปิฎก จนเป็นภาพที่คุ้นตา แสดงว่าท่านฝึกฝนในความรู้มา แล้วพอศึกษาหาความรู้เสร็จ ท่านจะให้ความรู้ด้วย ท่านจะสอนเรื่องที่ท่านศึกษา ค้นคว้า พิจารณา ไตรรตรอง และขบฉนแตกเริยร้อยแล้ว ส่วนพวกเราก็เหมือนลูกนกที่อ้าปากคอไห้ท่านคายอาหารที่เตรียมแล้วใส่ปาก แล้วก็กลืนลงไปเท่านั้นเอง ง่าย ๆ ท่านยืนยันเทคนิคเสมอมา บางครั้งมีญาติโยมมา กราบ ท่านก็สนองเรื่องเดิมอีก แต่พอแล้วไม่อั้น มีความรู้สึกว่าได้ความรู้เพิ่มขึ้น เรื่องเดียวกันแต่ลู่มาากขึ้น กว่าจะบอกมา ก็เข้าใจพระพุทธเจ้าตรัสว่า ธรรมะได้ยังไม่เคยฟัง ฟังแล้วก็จะเกิดปัญญา แม่เคยฟังแล้ว ถ้าฟังซ้ำอีก ปัญญาก็แตกฉานยิ่ง ๆ ขึ้นไป เป็นแบบนี้จริง ๆ นี้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมและประทับใจในตัวครูบาอาจารย์ของเรา และอยากให้พวกเราทุกคนเดินตามรอยท่าน พระมงกุฏ ดร.สมชาย จานวุฒิโภ ในเวลาปกติท่านยกหลวงพ่ออัมพุโยน่าเก็บตัวเองไว้ข้างหลังแต่ถ้าเมา หลวงพ่อทิตย์จะเดินนำหน้าไปก่อน รับคำก่อนเลย จะแลกหน้าไดหลวงพ่ออัมพุโยไปเลย เรียกว่านี่คือไอ้ขวัญของท่าน เมื่อลักสองปีมา มีอยู่คราวหนึ่งหลวงพ่ออัมพุโยมจะขอให้หลวงพ่อทิตย์ช่วย แต่ท่านเกรงใจ ก็เลยให้อุปปฏิธรรมาถามว่า “ช่วงนี้หลวงพ่อทิตย์ตะเป็นอย่างไรกัน” พอถามเท่านั้นเอง หลวงพ่อทิตย์ตอบว่า “สุขภาพกายใจทั้งใ สูงแรงทั้งกายใจกลางวันกลางคืน” พูดง่าย ๆ คือ พร้อม มีงานมาเท่าไรก็รับทั้งหมด ขอให้บอกมาเกิด แล้วท่านก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ยามมีบ้างหรือมีภาระในงานพระศานา ท่านยิ้มออกรับแทนทุกอย่าง พวกเราทุกคนมีบุญเหลือเกิน มีครูบาอาจารย์ที่มีคุณธรรมอันเลิศ ไม่ใช่เพียงคำพูดที่สอนเรา แต่การกระทำที่ท่านแสดงออกให้เราเห็นอยู่อย่างเป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ยม ขอให้ใจในความเป็นผู้มีบุญของพวกเราเกิด แล้วตั้งใจฝึกตนเองให้มีคุณธรรมด้วยความเคารพเหมือนท่าน แล้วเราจะมีความก้าวหน้าในการสร้างบารมีแบบไม่มีผิด ไม่มีเลย ไม่มีเสื่อม