ข้อความต้นฉบับในหน้า
และการกระทำที่ตรงกันทั้งด้านหน้าและหลัง นี่คือ ลักษณะของคนที่มีจิ๊จก
ในทางตรงกันข้าม คนที่ไม่สามารถทำอะไรได้จริงด้วยตัวเอง เขาอามว่าคนอื่นจะรู้ว่า
ตัวเองทำไม่ได้ กลัวคนอื่นจะถามในสิ่งที่เขาพูดเกินจริง เขาก็จะหาทางเอาตัวรอดด้วยการ
โทษ ทั้งมีเหยียดเหลี่ยม คดโกง ทกลอหง ผู้เป็นแม่ไม่ต้องหาทางป้องกันลูกจากสิ่งไม่ดี นิสัยชั่ว
เหล่านี้ ด้วยการฝึกลูกให้เป็นคนซื่อสัตย์ มีสัจจะ เมื่อทำงานได่ก็ต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ทันเวลา
และต้องทำให้ทันเวลา
ลักษณะของคนมีจิ๊จก
คนมีจิ๊จกะ เรียกว่าอย่างได้ว่า คนเชื่อสัตย์ คนชื่อดรง หรือคนจริง
คนเราต้องจริงต่ อ 5 เรื่อง ถึงจะเรียกว่ามีจิ๊จกหรือมีความซื่อสัตย์ ได้แก่
• จริงต่อหน้าที่ หน้าที่คือความรับผิดชอบ จริงต่อหน้าที่คือผิดตอบในหน้าที่ของตนให้
ครบถ้วน ทำให้ตอบ แล้วก็รักษไว้ และทำให้ยิ่งขึ้น ทำไว้ก็ยอมรับและแก้ไขปรับปรุงใหม่
ให้ดีขึ้น ไม่ผิดอีกต่อไป
• จริงต่อภารงาน การงานคือสิ่งที่ต้องทำภายในที่ความรับผิดชอบ ต้องตั้งใจทำงาน
ไม่ลทิง ทำจนกว่าจะสำเร็จ
• จริงต่อบุคคล ทำงานสิ่งใดดำคึนถึงบุคคลอื่น ไม่ทำความเดือดร้อน ไม่เมียดเบียน
ใคร ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อกูลประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น
• จริงต่อวาจา รักษาคำพูด พูดในสิ่งที่ทำได้จริง
• จริงต่อความดี เป็นจริงสำคัญที่สุด แม้ว่าจะทำจริง พูดจริง แต่ถ้าทำแบนไม่เลือกดี
เลือกวิธีเลียนแบบ คนจริงต้องทำจริง พูดจริง และเลือกทำแต่ความดีจริง
นอกจากนั้นแล้ว สัจจะยังแบ่งตามลักษณะจริงได้ 3 ลักษณะ คือ
• จริงจง เป็นลักษณะของจริงต่อหน้าที่ จริงต่องาน คือตรังว่ามีหน้าที่อะไร มีภารงาน
อะไรก็ขะ และทำงานเป็น ทำงานสิ่งใดด้วจเสร็จ ต้องดี และต้องทันเวลาทุกครั้งไป
• จริงใจ เป็นลักษณะของจริงต่อบุคคล จริงต่อจากวาาทำเป็นแล้ว ยังมีใจ
พร้อมจะช่วยคนอื่น ไม่เอาเปรียบใคร โกหกใคร พูดคำไหนคำนั้น
• จริงเสมอจริง เป็นลักษณะของจริงต่อความดี กล้าคนขคณพร้องของตนเอง คิดแก้ไข
ข้อมูลช่องของตนเอง จึงเลือกทำสิ่งที่ดีจริง
การฝึกลูกให้เป็นคนมีจิ๊จก
๑. สอนลูกให้รู้จ้กหน้าที่ของลูก
๑.๑ ไห้รู้ คนเรา ถ้าไม่รู้จ้กหน้าที่ของตัวก็จะทำอะไรไม่ได้ คือไม่รู้จะทำอะไรดี คนทุกคน
เกิดมาใหม่ในโลกนี้ มีของเก่ามหมด ทุกอย่างต้องมารีเมด้นเรืองกันใหม่ พอแม่คือครูคนแรก
ที่จะต้องสอนลูก เพราะลูกยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรในโลกนี้ จึงต้องมาเรียนรู้เพื่อจะได้หยุดจาก
ความไม่รู้หรือความโง่ และพ่อแม่คือครูแรกที่จะสอนความรู้พื้นฐานของชีวิตให้ลูก
๑.๒ ไหว้ ความรู้ที่ลูกได้รับรู้แล้ว ลูกต้องนำไปใช้ในทางที่เกิดประโยชน์ ที่ความสุข
มาให้ตัวเอง แก่ผู้อื่น