ข้อความต้นฉบับในหน้า
ระหว่างที่ทีมงานพิธีเริ่มรณรงค์ในปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ประเทศนั้น ไวรัสโคโรนากระบาดขึ้นในประเทศนี้ ณ นั้นไม่มีใครออกได้ การแพร่ระบาดจะกว้างไกลเพียงใด และการควบคุมจะทำได้แค่ไหน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในชีวิต และสนองนโยบาย "กล้าได้ แต่ไม่บ้าบิ่น" ทีมงานจึงลาเลิกการจัดกิจกรรมในประเทศแกมเบีย แต่ว่าทำภารกิจที่ไม่ได้วางแผนไว้ 1. ประกาศ คือ เข้าหวันที่ 5 เมษายน เขาพบเอกสารราชทูตไทยประจำจูเนีย เพื่อขอความอนุเคราะห์ว่าช่วย หากเยาวชนจากในเจริญมายื่นขอ และแสดงความขอบคุณที่ทางสถานทูตช่วยอำนวยความสะดวกที่ผ่านมา 2. ช่วงเย็นจัดปฏิบัติธรรมใน Hot Spot Yoga Class โดยคุณอุสุี่ คูสอนโยคะ ซึ่งเคยร่วม นั่งสมาธิ นิมนต์พระอาจารย์ไปสอนนักเรียนที่มาเรียนโยคะ ในรอบนี้ผู้ร่วมกิจกรรมประมาณ 10 คน ทุกคนสนใจทำสมาธิมาก
ในตอนแรกเริ่มพิซเชนต์บางคนไม่แน่ใจว่า โครงการปฏิบัติธรรมในประเทศในเจริญจะประสบความสำเร็จ แต่เมื่อทุกคนจะละลึงถึงสิ่งที่ได้รับจากการอบรมที่มากะวัน นักถึงประสบการณ์ดีๆ ในช่วงที่ได้มาปฏิบัติธรรมร่วมกัน ก็เกิดแรงบันดาลใจอย่างใหญ่ว่าจะจัดกิจกรรมนี้ให้ และในที่สุดก็สามารถทำได้ดีกว่าที่คิด คือจากการประเมินงานพบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 49 เปอร์เซ็นต์ ชื่นชอบกิจกรรมนี้มาก และ 100 เปอร์เซ็นต์ ขององค์กรที่เข้าร่วมกิจกรรม ต้องการทำโครงการปฏิบัติธรรมอีกในอนาคต
(ด้านล่างเป็นคำบรรยายภาพ: เข้าพบเอกอัครราชทูตไทยประจำจูเนีย นายธีรนิตย์ หลินสมบูรณ์ (ยืนที่ 1 จากซ้าย))