การปฏิบัติธรรมในช่วงวิกฤตโควิด-19 วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน ตุลาคม พ.ศ.2557 หน้า 73
หน้าที่ 73 / 136

สรุปเนื้อหา

ในช่วงวิกฤตไวรัสโคโรนา ทีมงานได้ดำเนินการจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมในประเทศแกมเบีย โดยมีการปรับแผนเพื่อรักษาความปลอดภัยและสนองนโยบาย "กล้าได้ แต่ไม่บ้าบิ่น" รวมถึงการเข้าพบเอกอัครราชทูตไทยประจำจูเนียเพื่อขอบคุณและขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีการจัด Hot Spot Yoga Class เพื่อส่งเสริมการทำสมาธิ โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 10 คน ต่างก็ให้ความสนใจในกิจกรรมนี้มาก ผลการประเมินพบว่าผู้เข้าร่วม 49% ชื่นชอบกิจกรรมและ 100% ขององค์กรที่เข้าร่วมต้องการทำโครงการอีกในอนาคต

หัวข้อประเด็น

-การปฏิบัติธรรม
-การจัดกิจกรรมภายใต้โควิด-19
-บทบาทของสถานทูตไทย
-โยคะและการทำสมาธิ
-การประเมินผลกิจกรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ระหว่างที่ทีมงานพิธีเริ่มรณรงค์ในปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ประเทศนั้น ไวรัสโคโรนากระบาดขึ้นในประเทศนี้ ณ นั้นไม่มีใครออกได้ การแพร่ระบาดจะกว้างไกลเพียงใด และการควบคุมจะทำได้แค่ไหน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในชีวิต และสนองนโยบาย "กล้าได้ แต่ไม่บ้าบิ่น" ทีมงานจึงลาเลิกการจัดกิจกรรมในประเทศแกมเบีย แต่ว่าทำภารกิจที่ไม่ได้วางแผนไว้ 1. ประกาศ คือ เข้าหวันที่ 5 เมษายน เขาพบเอกสารราชทูตไทยประจำจูเนีย เพื่อขอความอนุเคราะห์ว่าช่วย หากเยาวชนจากในเจริญมายื่นขอ และแสดงความขอบคุณที่ทางสถานทูตช่วยอำนวยความสะดวกที่ผ่านมา 2. ช่วงเย็นจัดปฏิบัติธรรมใน Hot Spot Yoga Class โดยคุณอุสุี่ คูสอนโยคะ ซึ่งเคยร่วม นั่งสมาธิ นิมนต์พระอาจารย์ไปสอนนักเรียนที่มาเรียนโยคะ ในรอบนี้ผู้ร่วมกิจกรรมประมาณ 10 คน ทุกคนสนใจทำสมาธิมาก ในตอนแรกเริ่มพิซเชนต์บางคนไม่แน่ใจว่า โครงการปฏิบัติธรรมในประเทศในเจริญจะประสบความสำเร็จ แต่เมื่อทุกคนจะละลึงถึงสิ่งที่ได้รับจากการอบรมที่มากะวัน นักถึงประสบการณ์ดีๆ ในช่วงที่ได้มาปฏิบัติธรรมร่วมกัน ก็เกิดแรงบันดาลใจอย่างใหญ่ว่าจะจัดกิจกรรมนี้ให้ และในที่สุดก็สามารถทำได้ดีกว่าที่คิด คือจากการประเมินงานพบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 49 เปอร์เซ็นต์ ชื่นชอบกิจกรรมนี้มาก และ 100 เปอร์เซ็นต์ ขององค์กรที่เข้าร่วมกิจกรรม ต้องการทำโครงการปฏิบัติธรรมอีกในอนาคต (ด้านล่างเป็นคำบรรยายภาพ: เข้าพบเอกอัครราชทูตไทยประจำจูเนีย นายธีรนิตย์ หลินสมบูรณ์ (ยืนที่ 1 จากซ้าย))
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More