ข้อความต้นฉบับในหน้า
ผู้หญิงบ้าง บางทีขออภัย ๒ เทศกาล แต่ละคนมีวิบากกรรมนี้อยากบ้างน้อยบ้าง ถ้าไม่มีสื่อเป็นตัวกระตุ้นคำ่ บางทีเหมือนกับคนปกติ แต่พอไปเจอสื่อบางอย่างหรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่นำไปกระตุ้นเอาเสน่ห์วากรรมในอดีตให้แสดงออกมา เลยกลายเป็นคนที่ชอบเพศเดียวกันขึ้นมา
ถามว่าเป็นแล้วบาปไหม ก็ให้ทราบว่ารื่องนี้เกิดจากเววินการกรรมมา ในอดีต ให้เรา พยายามควบคุมตัวเองให้ดี อย่าไปยู่เรื่องเหล่านี้มากเกินไป เพราะว่าคนที่รักขอบเพศเดียวกันมัมจะมีอารมณ์ค่อนข้างรุนแรงกว่าคนโดยทั่วไป เราจุดอ่อนของตัวเองแล้ว ต้องตั้งใจให้ดีดขาดให้วากรรมนี้หมดไปซักทีเนี่ย ไม่ให้ดไปภาพถ่ายหน้าัอีก
ถ้าเราแต่งงานกับคนต่างศาสนาแล้วจะต้องเปลี่ยนศาสนา เท่ากับว่าไม่รักษาศาสนาตัวเองหรือเปล่า?
เราต้องทราบหลักความจริงว่า พระพุทธศาสนียบกนการอิทธิพลพิเศษที่ต่างจากศาสนาอื่น คือเป็นศาสนาที่ไม่ตั่งอยู่บนฐานความเชื่อ แต่ตั้งอยู่บนฐานความจริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนให้ใครเชื่อพระองค์ แต่ทรงอยู่ในฐานะของผู้ค้นพบความจริงของโลกและชีวิต ว่าคุณเรามีเวียนว่ายตายเกิด กฎแห่งกรรมมีจริง นรกสวรรค์มีจริง บุญบาปมีจริง แล้วให้คุณตั้งใจสร้างความดี สั่งสมบุญกุศล ตั้งใจปฏิบัติธรรม สุดท้ายเมื่อสามารถตัดกิเลสให้หมดไปจากตััวแล้ว ก็จะเข้าพระนิพพานได้ พระองค์ทรงเอกความจริงนี้บอกเรา ไม่จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บังเกิดขึ้นหรือไม่ นรก-สวรรค์ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม บุญบาปก็เหมือนเดิม เพียงแตคนจะไม่รู้ว่า อะไรบุญ อะไรบาป แล้วจะไปผิดทิฎฐิปลนาดร ก็พอทราบจากคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็จะได้ทำบุญ ไม่ทำบุญ เมื่อทำความดีมากขึ้น สุดท้ายก็จะพระนิพพาน เพราะฉะนั้นเมื่อเราได้ มานับถือพระพุทธศาสนา ได้บรรลุหนทางอันประเสริฐที่จะนำตัวเองให้หลุดพ้น เราจะทิ้งความจริง ไปสู่ความไม่จริงหวังถาวรไม่ ถ้ารักใครจริงควรจะพามาเห็นความจริงแบบเดียวกับเราจึงถูกดงบ บางคนอาจว่า ศาสนาขาขับ แต่ต้องเราไม่ขับด เราปรับเขามา เเราจะเปลี่ยนมา เรายาก ประเด็นไม่ใช่เรื่องง่ายหรือจ่าย แต่ดูที่ว่าจะเป็นประโยชน์หรือไม่ไปประโยชน์ ถ้าปรับเปลี่ยนไปง่าย ๆ แล้วไปแย่ด้วยกัน อย่างนี้ก็ยากจริงหรือ ถ้ารักจริงและอยากเป็นครูขึ้นบุญเขาก็ต้องพยายามเดิน เหมือนว่านำย่ำจะเข้าก็ต้องพยายามฝ่า เพราะปลายทางคือความจริง ที่สำคัญใดลงเราก็จะขวคนที่เรารักทุกคนให้มาถึงความจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนมา