ข้อความต้นฉบับในหน้า
ก่อนไปศึกษาปรัชญาเอกที่ประเทศนอร์เวย์ พระอาจารย์ปรมัยจะงัวร์พระธรรมกายเป็นครั้งแรก ตอนนั้นท่านยังไม่ได้คิดเรื่องบวชเลย แต่ในฐานะชาวพุทธที่มี “บิ๊บ” (Chip) ของความเป็นพุทธฝังอยู่ในตัว ด้วยการหล่อหลอมผ่านวัฒนธรรมประเพณีแบบไทย ๆ ทำให้ท่านสนใจที่จะศึกษาทางธรรมอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก ส่วนเรื่องการบวชนั้น ท่านคิดว่า “เอาไว้ตอนอายุมากดีกว่า” ขอไปมีครอบครัวก่อน ลูกโดแล้วค่อยบวชก็ยังไม่สาย แต่งไม่ทันได้อายุมากและยังไม่ได้มีครอบครัวอย่างที่คิดเอาไว้ท่านก็ออกบวชเสียก่อน ทั้งที่นวดทางโลกแค่ใสมมากตอนเรียนปรัชญาเอก (พ.ศ. ๒๕๔๗- ๒๕๕๕) ท่านได้ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัย คิดเป็นเงินไทยเดือนละแสนกว่าบาท ปัจจุบันเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ทำงานอยู่ต่างประเทศได้เดือนคณะหลายแสน ตัวท่านเองก็เคยคิดจะทำงานในต่างประเทศเหมือนกัน หรือถ้าย้ายเมืองไทยก็จะเปิดบริษัทของตัวเอง ยิ่งประมาณอยู่เมื่อใกล้บวชก็เลยมีความจริงของชีวิตที่แตกต่างกันไปอีกแบบหนึ่งขึ้นอยู่กับมุมมองแต่ในที่สุดก็ได้บวชเมื่ออายุประมาณ ๒๕ ปีแล้ว นั่นคือปี พ.ศ. ๒๕๕๘
ในช่วงที่ตัวเองยังไม่บวชนั้น ท่านเคยคิดว่า “ตอนที่เรียนปรัชญาเอก หลวงพ่อเริ่มศึกษาธรรมจากการ Case Study ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง DMC พบว่าตัวเองยังประมาณอยู่มาก ตอนนั้นกำลังจะเรียนจบปรัชญาเอก เมื่อใกล้บวชก็พบว่า ตัวเองไม่ได้มีความรู้จะอะไรนักเลย โดยเฉพาะเรื่องความจริงของชีวิต แต่กลับมีลักษะเสี้ยเยิย เกิดขึ้นอีกเพียบ เช่น ขี้หดหด ฟุ้งซ่าน รำคาญใจ
ยิ่งนั้นยิ่งอับสยามในตัวเอง ยิ่งหลังจากศึกษาธรรมะระดับหนึ่ง ก็เริ่มเข้าใจความแตกต่างของชีวิตทางโลกกับทางธรรมมากขึ้น และรู้ว่าชีวิตนี้เกิดมากอะไร หลวงพี่จีมเป้าหมายในการดำเนินชีวิตที่ชัดเจนว่าต้องออกบวช เพราะการอยู่ในเพศสมณะจะทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่าที่สุดและคุ้มค่าที่สุดสำหรับการเกิดมาในชาติถัดไปนี้ หลวงพี่คิดว่าถ้าถึงเวลาเท่าไหร คือ ตัดใจเสียทีดีกว่า เพราะถ้าไม่เริ่มบวชตอนนี้ จะไปรอวุ่นวันหน้าก็ไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่าโอกาสนั้นจะมาถึง การบวชของพระอาจารย์ปรมัยมีความเป็นมาเป็นไปแบบนี้ ซึ่งดูแล้วห่างไกลจากคำว่าจ “บวชนโลก” ในแนวของผู้พ่ายแพ้ต่อชีวิตมากนัก
หลังจากบวชอุปสมบทแล้ว ชีวิตที่สงบเย็นได้มาคร่วมภาพพลัดพลั่น เท่ากับบ่มเพาะศีล สมาธิ ปัญญา ทำให้พระอาจารย์ปรมัยบวชต่อเนื่อง อีกทั้งเมื่อมองกลับไปยังชีวิตในอดีต ก็รู้สึกว่ามไม่ได้อยากกลับไปมีชีวิตแบบนั้นอีกแล้ว มองเห็นถึงความดำแคบในความคิด และโอกาสในการสร้างบุญบารมีดีๆ คิดดดึงติดไปหมด และชีวิตสมณะทำให้รู้สึกอิสระ ซึ่งก็แปลกเพราะตอนแรกนึกว่า การต้องปฏิบัติธรรมบาป ๒๒๗ ข้อจะทำให้อดอยาก เพราะปกติหลวงพี่ไม่ชอบทำอะไรตามกรอบ แต่เมื่อได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของศีลและปฏิบัติ ตาม กลับทำให้รู้สึกถึงความปลอดโปร่งใจที่มีอยู่จำกัด
พฤศจิกายน ๒๕๕๙ อยู่ในบุญ ๕๔